Page 89 - 160
P. 89

75



                                                                                           ึ
                                                                         ื
                                     ชลธาร สมาธิ (2560) ได้ศึกษาการพัฒนาคู่มอการบริหารจัดการศกษาเรียนร่วม
                       หลักสูตรอาชีวศึกษาและมัธยมศึกษาตอนปลาย (ทวิศึกษา) ของโรงเรียนสบเมยวิทยาคม จังหวัด
                       แม่ฮองสอน โดยกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอนในโรงเรียน
                          ่
                       สบเมยวิทยาคม และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานตามแนวทางการบริหารจัดการศึกษาเรียนร่วม

                       หลักสูตรอาชีวศึกษาและมัธยมศึกษาตอนปลาย (ทวิศึกษา) จำนวน 21 คน เป็นการประชุมเชิง

                       ปฏิบัติการ แบบการหาประสิทธิภาพของคู่มือการบริหารจัดการศึกษาเรียนร่วมหลักสูตรอาชีวศึกษา
                       และมัธยมศึกษาตอนปลาย (ทวิศึกษา) ของโรงเรียนสบเมยวิทยาคม จังหวัดแม่ฮ่องสอน พบว่า มี

                       ปัญหาในด้านการวิเคราะห์ประเภทวิชา สาขาวิชา สาขางาน เนื่องจากยังไม่มีการสำรวจสถาน
                       ประกอบการ ข้อมูลพื้นฐาน ความจำเป็นและความต้องการของชุมชน สาขาวิชาไม่ได้เป็นไปตามความ

                       ต้องการของผู้เรียน และไม่ได้เตรียมความพร้อมของวิทยากรจากวิทยาลัยการอาชีพแม่ฮองสอน คู่มือ
                                                                                              ่
                       การพัฒนามีองค์ประกอบด้วย ตอนที่ 1 แนวทางการดำเนินการจัดการศึกษาวิชาชีพในโรงเรียน
                       สบเมยวิทยาคม ตอนที่ 2 แนวทางการจัดโครงสร้างหลักสูตรของโรงเรียนสบเมยวิทยาคม และตอนที่

                       3 แนวทางการจัดการเรียนการสอน และประสิทธิภาพของการพัฒนาคู่มอ คือ ด้านความถูกต้อง ด้าน
                                                                                  ื
                       ความเหมาะสม ด้านความเป็นไปได้ และด้านความเป็นประโยชน์โดยภาพรวมและรายด้านอยู่ใน
                       ระดับมากที่สุด ด้านที่มีระดับสูงสุด คือ ด้านความเหมาะสม รองลงมา คือ ด้านความเป็นไปได้

                                     ณัฐวิทย์ มุงเมือง และบุญสม วราเอกศิริ (2560) ศึกษาวิจัยการพัฒนาความร่วมมอ
                                                                                                       ื
                       การจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีของวิทยาลัยการอาชีพในภาคเหนือตอนบน ผลการศึกษาพบว่า

                       ความร่วมมือการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีของวิทยาลัยการอาชีพในภาคเหนือตอนบน ตาม

                       องค์ประกอบห้าด้าน ได้แก่ ประการแรก การติดตามและประเมินผล ประการที่สอง การตัดสินใจ
                       พัฒนาและแก้ปัญหา ประการที่สาม การทำงานร่วมกัน ประการที่สี่ การค้นหาปัญหา และประการ

                       สุดท้าย การวางแผนการพัฒนา มีความสำคัญอยู่ในระดับมาก และปัจจัยที่ส่งผลต่อการร่วมมือกันใน
                       การจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ตามองค์ประกอบ 4 ด้าน พบว่า ปัจจัยที่พยากรณ์ความร่วมมือ

                                                               ่
                       ในการจัดการอาชีวศึกษาแบบระบบทวิภาคี ได้แก อันดับแรก คือ ด้านบุคลากร ถัดมาคือ การจัดการ
                       เรียนการสอน การบริหารและหลักสูตร
                                     เบญจวรรณ ศรีคานวล, ปัญญา ทองนิล และกาญจนา บุญส่ง (2560) ศึกษาปัจจัยที่

                       ส่งผลต่อความสำเร็จในการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีของสถานศึกษาในจังหวัดลำปาง สังกัด

                       สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา วัตถุประสงค์เพอศึกษาระดับปัจจัยที่ส่งผลในการบริหาร
                                                                     ื่
                       จัดการ ศึกษาระดับความสำเร็จในการจัดการ และศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการจัด

                       การศึกษา ผลการวิจัย สรุปได้ว่า 1) ระดับปัจจัยที่ส่งผลในการจัดการศึกษาในภาพรวมอยู่ในระดับ

                       มากที่สุด โดยปัจจัยที่ส่งผลมากที่สุดคือ ด้านหลักสูตร ด้านการจัดการเรียนการสอน รองลงมาคือ
                       ด้านนักเรียน ด้านอาคารสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวก ด้านสถานประกอบการ ด้านชุมชน
   84   85   86   87   88   89   90   91   92   93   94