Page 86 - 160

72

งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

วรเทพ ภูมิภักดีพรรณ (2550) ได้ศึกษารูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำเหนือผู้นำของ
ื่
ผู้บริหารโรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชน เพอพัฒนารูปแบบภาวะผู้นำเหนือผู้นำสำหรับผู้บริหารโรงเรียน
อาชีวศึกษาเอกชน และหาประสิทธิภาพของรูปแบบภาวะผู้นำเหนือผู้นำสำหรับผู้บริหารโรงเรียน

อาชีวศึกษาเอกชน พบว่า รูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำเหนือผู้นำของผู้บริหารโรงเรียนอาชีวศึกษา
เอกชน ประกอบด้วย 7 ด้านเรียงลำดับตามค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย คือ 1) ด้านสนับสนุนให้เกิดผู้นำ

ตนเองโดยการสร้างทีมงาน 2) ด้านการทำให้เป็นผู้นำตนเอง 3) ด้านอำนวยความสะดวกให้เกิด
วัฒนธรรมของผู้นำตนเอง 4) ด้านกระตุ้นให้ผู้ตามตั้งเป้าหมายด้วยตนเอง 5) ด้านผู้นำแสดงเป็นแบบ

ฉบับที่เป็นผู้นำตนเอง 6) ด้านอำนวยความสะดวกให้เกิดภาวะผู้นำตนเองโดยการให้รางวัลและตำหนิ

อย่างสร้างสรรค์ และ 7) ด้านสร้างรูปแบบความคิดทางบวก ผลการประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบ
โดยนำไปใช้ทดลองในโรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชน พบว่า ผู้เข้าอบรมหลังการทดลองใช้รูปแบบการ

พัฒนาภาวะผู้นำเหนือผู้นำมีภาวะผู้นำสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
แสดงว่ารูปแบบภาวะผู้นำเหนือผู้นำมีประสิทธิภาพ

มนังค์ อังควานิช (2553) ได้ศึกษานโยบายการศึกษากับการพัฒนาประเทศมาเลเซีย

ื่
ค.ศ. 1981-2003 เพอศึกษาการกำหนดนโยบายการศึกษาของประเทศมาเลเซียสมัยรัฐบาล
นายกรัฐมนตรีมหเดร์ บิน โมฮาหมัด เป็นผู้นำประเทศ (ค.ศ. 1981-2003) พบว่า นโยบายการศึกษา

ได้ปรับเปลี่ยนจากการใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างอัตลักษณ์ทางสังคมที่วางอยู่บนฐานความคิดว่า

ื่
ประเทศมาเลเซียเป็นดินแดนของชาวมลายูเป็นการจัดการศึกษาเพอยกระดับศักยภาพของชาว
มาเลเซียโดยรวม เพื่อนำประเทศมาเลเซียไปสู่ความเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งจะส่งผลต่อการเพมศักยภาพ
ิ่
ในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ทั้งในระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติในอนาคต
อารีรัตน์ ชูรวง (2554) ได้ศึกษาการประเมินการจัดการศึกษาเรียนร่วมหลักสูตร

อาชีวศึกษา และมัธยมศึกษาตอนปลาย (ทวิศึกษา) ของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 23 จังหวัด

ึ
พิษณุโลก สังกัดสำนักบริหารงานการศกษาพิเศษ โดยใช้รูปแบบการประเมินรูปแบบซิป (CIPP
ึ
Model) ศึกษาผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการศกษาเรียนร่วมหลักสูตรอาชีวศึกษา และมัธยมศึกษา
ตอนปลาย (ทวิศึกษา) จำนวน 200 คน ผลการศกษาพบว่า การจัดการศึกษาเรียนร่วมหลักสูตร
ึ
อาชีวศึกษา และมัธยมศึกษาตอนปลาย (ทวิศึกษา) ของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 23 จังหวัด

พิษณุโลก มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก พิจารณาเป็นรายด้านมีผลการประเมิน ดังนี้

1) การประเมินบริบทของการจัดการศึกษามีความเหมาะสมมากที่สุด พบว่า การจัดการศึกษาเป็น
ึ
ทางเลือกสำหรับนักเรียนด้อยโอกาสที่มความประสงค์จะเรียนหลักสูตรการศกษาขั้นพื้นฐาน ระดับ
ี
มัธยมศึกษาตอนปลายควบคู่กับหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ การจัดการศกษาเป็นการเพิ่มโอกาส
ึ
ทางการศึกษาอาชีวศึกษาแก่นักเรียนด้อยโอกาสตามความถนัดและความความสนใจ และการจัด