Page 194 - การศึกษาวิเคราะห์หนังสืออะกีดะฮฺ อันนาญีน ฟี อิลมฺ อุศูล อัดดีน ของชัยคฺ ซัยนฺ อัลอาบิดีน เบ็น มุฮัมมัด อัลฟะฏอนีย์
P. 194

172






                                                                           ً
                                                                                               نًَّ
                                          نَّ
                                                                 ً
                                          ىأ مي  يى لع  مزع ً رمىٍ مأا اى ذه   اوعزانػ  ينح مي  ى لػبػ  فا  نم  ى له انَّإ ((
                                                                                 ى ى ى
                                                                                              ى
                                                                   يى ىى ى
                                            ٍ ٍ ى ي ٍىى ٍ
                                                                                      ٍ ى ى ى
                                                                             ٍ ٍ
                                                              ى
                                                                                         )) ً ً     هيف اوعزانػ ػ
                                                                                              يى ىىى
                                                           )       2133  . ت .  :   د   مذمترلا هجرخأ   (
                                     ความว่า “ แท้จริงความพินาศได้เกิดขึ้นกับผู้ก่อนหน้าพวกเจ้า เมื่อพวกเขา


                                     ได้มีการโต้เถียงในเรื่องนี้ ฉันหวังว่าพวกท่านคงไม่มีการโต้เถียงในเรื่องนี้ ”
                                                                                                 1
                                                                                (บันทึกโดย al-Tirmidhiy, n.d. : 2133)
                                     จากทัศนะข้างต้นพอที่จะสรุปได้ว่า ทัศนะแรกซึ่งเป็นทัศนะของกลุ่มอะฮฺลิลกะลาม
                       พวกเขามีความเข้าใจว่า การตักลีดหมายถึงการปฏิบัติตามอัลกุรอานและฮะดีษโดยไม่ได้พิจารณาทาง

                       สติป๎ญญา ซึ่งเป็นความหมายของนิยามที่ว่า ตักลีดคือการยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่นโดยไม่ม ี

                       หลักฐาน ฉะนั้นจากนิยามของกลุ่มอะฮฺลิลกะลามสามารถสรุปได้ว่า การตักลีดของพวกเขานั้นคือการ
                       ยอมรับหลักฐานจากอัลกุรอานและฮะดีษ แต่ไม่ได้ใช้หลักฐานด้านสติป๎ญญา ดังนั้น ทัศนะนี้ถือว่าเป็น

                       ทัศนะที่อ่อน เนื่องจากว่าในอัลกุรอานและฮะดีษเองมีการกล่าวถึงหลักฐานด้านสติป๎ญญามากมาย

                       ด้วยกัน อาทิ เช่น อัลลอฮ  ได้ตรัสว่า
                                            ์
                                            ﭼ         ﮓ  ﮒ     ﮑ  ﮐ  ﮏ  ﮎ  ﮍ  ﮌ  ﮋ      ﮊ  ﮉ     ﭽ

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                      ) 190  ةيأ  :     فارمع ؿ  ةروس (



                                     ความว่า “แท้จริงในการสร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน และการที่กลางวัน
                                     และกลางคืนตามหลังกันนั้น แน่นอนมีหลายสัญญาณสําหรับผู้มีป๎ญญา”

                                                                          ์
                                                                                             ์
                                                                                 (สูเราะฮอาละอิมรอน : อายะฮ 190)
                                     อีกประการหนึ่งที่เป็นสาเหตุทําให้พวกอะฮฺลิลกะลามต้องเน้นหนักและวาญิบใน
                       เรื่องการสังเกตหรือการพิจารณาโดยสติป๎ญญา (นะซัร) เพราะอุละมาอ์ของพวกเขากล่าวว่า สิ่งแรกที่

                       วาญิบกับมุกัลลัฟคือ การสังเกตหรือการพิจารณาโดยสติป๎ญญา (นะซัร) กล่าวคือสิ่งแรกสําหรับมนุษย์

                       ที่บรรลุศาสนภาวะคือการสังเกตโดยสติป๎ญญาไม่ว่าเขาผู้นั้นจะเดิบโตในครอบครัวมุสลิมก็ตาม
                       หมายความว่าเขาจะต้องพิจารณาด้วยหลักฐานของอะฮฺลิลกะลามหรือตรรกวิทยาในการที่จะได้มาซึ่ง

                       ความรู้ แตกต่างจากทัศนะของกลุ่มสะลัฟที่มีความเห็นว่า สิ่งแรกที่วาญิบกับปวงบ่าวคือการให้ความ
                                                                                                     2
                                       ์
                       เป็นเอกะต่ออัลลอฮ    ดังที่ปรากฏในฮะดีษบทหนึ่งที่ท่านเราะสูล    ได้กล่าวกับท่านมุอาษ  เบ็น
                       ญะบัล  ขณะที่ท่านส่งมุอาษไปเป็นผู้ปกครองที่เยแมนว่า :




                       1  อะบูอีซา กล่าวว่าฮะดีษนี้เป็นฮะดีษฮะสันเฆาะรีบ
                       2
                        ท่านมีชื่อเต็มว่า มุอาษ เบ็น ญะบัล เบ็น อัมรู อาวสฺ อัลอันศอรียฺ อัลคอซรอญียฺ เป็นอุละมาอ์เศาะหาบะฮฺทีมีความเชียวชาญในเรื่อง
   189   190   191   192   193   194   195   196   197   198   199