Page 193 - การศึกษาวิเคราะห์หนังสืออะกีดะฮฺ อันนาญีน ฟี อิลมฺ อุศูล อัดดีน ของชัยคฺ ซัยนฺ อัลอาบิดีน เบ็น มุฮัมมัด อัลฟะฏอนีย์
P. 193

171







                                                                        ﭼ ﭠ  ﭟ  ﭞ  ﭝ   ﭜ   ﭛ  ﭚ  ﭽ

                                          )    43  ةيأ  نم ضعب  :     لحنلا ةروس (
                                     ความว่า “ดังนั้นพวกเจ้าจงถามบรรดาผู้รู้ หากพวกเจ้าไม่รู้”

                                                                                              ์
                                                                        (สูเราะฮอันนะหฺลฺ : ส่วนหนึ่งจากอายะฮ 43)
                                                                    ์
                                     2)  ถ้าหากว่าการสังเกตหรือการพิจารนาโดยสติป๎ญญา (นะซัร) เป็นสิ่งวาญิบ
                       แน่นอนบรรดาเศาะฮาบะฮ์ต้องปฏิบัติกับมันและสั่งใช้ให้ผู้อื่นปฏิบัติด้วย แต่พวกเขามิได้ปฏิบัติ หาก

                       ว่าพวกเขามีการปฏิบัติแน่นอนต้องมีการอ้างถึงพวกเขาเช่นเหมือนกับการอ้างถึงพวกเขาในป๎ญหา
                       ย่อยของฟิกฮฺ

                                     3)  ถ้าหากว่าการสังเกตหรือการพิจารนาโดยสติป๎ญญา (นะศัร) ในการรู้จักอัลลอฮ ์

                       นั้นเป็นวาญิบ แน่นอนจะนําไปสู่ให้เกิดการหมุนเวียนหรือวนกับที่ (ดูร) เพราะการวาญิบสังเกตหรือ
                       การพิจารณาที่ถูกสั่งใช้นั้นมาจากอัลลอฮ์ต้องพึ่งพิงกับการรู้จักอัลลอฮ์ด้วย และการรู้จักอัลลอฮ์ก็

                       จะต้องพึ่งพิงกับการสังเกตหรือการพิจารณาด้วยเช่นกัน

                                     หลักฐานทัศนะที่สาม
                                     ทัศนะที่สามใช้เหตุผลหรือหลักฐานในการอ้างดังนี้คือ

                                     1)  แท้จริงการสังเกตหรือการพิจารนาโดยสติป๎ญญา (นะซัร) นั้นเป็นการเดาในสิ่งที่
                       คลุมเครือและตกอยู่ในความหลงใหล สับสนในความเห็น แตกต่างกับการตักลีดซึ่งเป็นหนทางที่

                       ปลอดภัยจากการผิดพลาดและหลงผิด ดัวยเหตุนี้จึงจําเป็นต้องใช้การตักลีด

                                     2)  แท้จริงการสังเกตหรือการพิจารนาโดยสติป๎ญญา (นะซัร) เป็นสิ่งที่ถูกห้ามโดย
                       อัลกุรอานและฮะดีษ

                                     อัลลอฮ  ได้ตรัสว่า
                                           ์
                                                         ﭼ ﮊ  ﮉ  ﮈ  ﮇ  ﮆ    ﮅ  ﮄ  ﮃ  ﮂ  ﮁ  ﮀ  ﭿ  ﭾ  ﭽ
                                                ) 4  ةيأ  :     رفاغ ةروس (

                                     ความว่า “ไม่มีผู้ใดจะโต้เถียงในอายาตของอัลลอฮ์ (อัลกุรอาน) นอกจาก

                                     บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา ดังนั้น อย่าให้การวางมาดของพวกเขาในหัวเมือง

                                     ต่าง ๆ เป็นที่หลอกลวงแก่เจ้า”
                                                                   ์
                                                                       (สูเราะฮฆอฟิร : อายะฮ 4)
                                                                                ์
                                     การสังเกตหรือการพิจารนาโดยสติป๎ญญาจะนําไปสู่การเปิดประตู่แห่งการทะเลาะ

                       วิวาท ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่ต้องห้าม
                                     ท่านนะบี   ได้ห้ามบรรดาเศาะฮาบะฮ์หลังจากที่ท่านได้เห็นพวกเขากําลังพูด

                       เกี่ยวกับป๎ญหาเกาะดัรว่า :
   188   189   190   191   192   193   194   195   196   197   198