Page 177 - การศึกษาวิเคราะห์หนังสืออะกีดะฮฺ อันนาญีน ฟี อิลมฺ อุศูล อัดดีน ของชัยคฺ ซัยนฺ อัลอาบิดีน เบ็น มุฮัมมัด อัลฟะฏอนีย์
P. 177
155
ويس في ٢سما ّار اَ هلر غ س ة ئ ضظا ٍظت لم باتن في ٢ًع ٢ًص ( ( َٔ
) ) باتهيا
أتٓمم ة ئ ٬َ ؼاٝتٓع ٣ادغْ باتن لمارر ٛهغتأ ٣أ ٠ًٛص فاٝغغضب حٝتصأ
“ 1 تٜا باتن ينهَر لمارر تٜا ٛنانم ارأ اًُع حٝ٦ب ٟأ ٕٛؿَا
ความว่า “ผู้ใดได้ทําการเศาะละวัตให้กับฉันในหนังสือ มะลาอิกะฮ์จะขอ
อภัยโทษให้กับเขาทันใดที่ชื่อของฉันยังปรากฏอยู่ในหนังสือนั้น” 2
จากเนื้อหาข้างต้นผู้แต่งอธิบายการเศาะละวัตออกเป็น 2 ทัศนะ คือ
1. การเศาะละวัตตามทัศนะที่ถูกต้องคือ ท่านน ะบีได้รับประโยชน์สําหรับท่าน
เหมือนกับบรรดานะบีก่อน
2. มีการกล่าวว่าสิ่งที่ได้รับยังสมบูรณ์นั้นสําหรับคนที่กล่าวเศาะละวัตเท่านั้นมิใช่
นะบีเนื่องจากท่านนะบีนั้นมีความสมบูรณ์ภายในตัวอยู่แล้ว แต่ทัศนะนี้ถูกขัดค้านด้วยเหตุผลที่ว่าท่าน
นะบี ได้รับความสมบูรณ์นั้นมิใช่สมบูรณ์ที่สุดเนื่องจากความสมบูรณ์สุดนั้นเป็นสิทธิของอัลลอฮ ์
3
ผู้แต่ง ได้ยกอายะฮ์เป็นหลักฐาน คือ
4 ً
ي
ى
هٍى
ٍ ى
) ك ا نم ى ل رػيخ ةرخلآلك (
ความว่า “และแน่นอน เบื้องปลายเป็นการดียิ่งแก่เจ้ากว่าเบื้องต้น”
4 .1.2.2 ประโยชน์เกี่ยวกับการจัดเรียงบัสมะละฮ์ ฮัมดะละฮ์ เศาะละวัตและสะลาม
5
ผู้แต่ง กล่าวว่าทั้ง 4 คํา เป็นฮุกุ่มสุนัตในมัษฺฮับอัชชาฟิอีย์สําหรับการกล่าวในกา ร
เริ่มต้นของบทนําหนังสือหรือเรียบเรียงทางวิชาการ ส่วนการกล่าวบัสมะละฮ์ เศาะละวัตและ
6
ชะฮาดะฮ์ในทุกครั้งการละหมาดเป็นฮุกุ่มวาญิบ
7 8
การยื่นยันเป็นฮุกุ่มสุนัตของการกล่าวทั้ง 4 คํา ปรากฏจากอันนะวะวีย์ อัลเคาะฏีบ
9
8
เคาะฏีบ และอัรรอมลีย์ เป็นต้น
1 Tuan Mināl, n.d. : 4.
2 เป็นฮะดีษจากอะบี ฮุร็อยเราะฮฺ ซึ่งบันทึกโดย อัฏเฏาะบะรอนีย์ในหนังสืออัลมุอฺญัม อัลเอาวสัฏ (al-Tabarāniy, 1415 : 1435).
อัลอัลบานีย์ระบุว่าเป็นฮะดีษเฎาะอีฟ ญิดดัน (al-Ἀlbāniy, 1992 : 3316).
3
Tuan Mināl, n.d. : 4.
4 สูเราะฮ์อัฎฎุฮา อายะฮ์ 4
5
Tuan Mināl, n.d. : 4.
6
ในมัษฺฮับมาลิกเป็นหุก่มวาญิบครั้งเดียวตลอดชีวิต โดยเนื่องไขเขาผู้นั้นจะต้องตั้งเจตนาว่าทั้ง 4 เป็นวาญิบ (Tuan Mināl, n.d. : 4).
7
al-Nawawiy, n.d. : 77 ในหนังสืออัลมัจญ์มูอฺ
8
al-Khatib, n.d. : 7 ในหนังสือมุฆนีย์ อัลมุฮตาจญ์ ท่านมีชื่อเต็มว่า ชัมสุดดีน มุฮัมมัด เบ็น อะฮมัด อัลเคาะฏีบ อัชชัรบีนีย์
อัชชาฟิอีย์ เสียชีวิตในปี ฮ.ศ. 977(al-Zirikliy, 2002 : 6/6).
9
al-Ramliy, 1984 : 25-36 ในหนังสือนิฮายะฮ์ อัลมุฮตาจญ์