Page 111 - การศึกษาวิเคราะห์หนังสืออะกีดะฮฺ อันนาญีน ฟี อิลมฺ อุศูล อัดดีน ของชัยคฺ ซัยนฺ อัลอาบิดีน เบ็น มุฮัมมัด อัลฟะฏอนีย์
P. 111

89







                                     ในบรรดาอุละมาอ์ศตวรรษที่ 7 ที่อธิบายและเผยแพร่อะกีดะฮ์เตาฮีดตามแนวทาง
                       เคาะลัฟ อาทิ เช่น

                                                              1
                                     1)  อิมามฟ๎กรุดดีน อัรรอซีย์    ได้แต่งหนังสืออะสาส อัตตักดีส  (سيدق لا ساسأ)
                       ซึ่งเป็นหนังสือเตาฮีดเล่มหนึ่งที่แต่งตามแนวทางเคาะลัฟซึ่งท่านกล่าวว่า :
                                     “การสรรเสริญทั้งหลายนั้นเป็นสิทธิของอัลลอฮ์ สิ่งที่วาญิบคือการมีของพระองค์

                                     และการดังเดิมของพระองค์ สิ่งที่ไม่อาจเป็นไปได้คือการเปลี่ยนแปลงของพระองค์

                                     และการสูญสลายของพระองค์ ความยิ่งใหญ่เหนือสิ่งอื่นใดคืออํานาจของพระองค์
                                     และความสูงส่งของพระองค์ ความสมบูรณ์คือความโปรดปรานของพระองค์และ

                                     ความกรุณาของพระองค์ สิ่งที่บ่งบอกถึงความเอกะของพระองค์คือฟื้นดินของ

                                     พระองค์และฟากฟ้าของพระองค์ ความสูงส่งจากการไม่บริสุทธิ์ของการเปรียบเทียบ
                                     และการปฏิเสธคือ บรรดาคุณลักษณะและบรรดาพระนามของพระองค์ ดังนั้น

                                     อัลอิสติวาอ์ของพระองค์หมายถึง การบังคับและการครอบครองของพระองค์ และ
                                     นุซูลของพระองค์หมายถึง ความดีและการมอบให้ของพระองค์ และอัลมะญีอ์ของ

                                     พระองค์หมายถึง คําชี้ขาดของพระองค์” (al-Rāziy, 1986 : 9).
                                     อุละมาอ์เคาะลัฟจะใช้หลักความคิดในการอธิบายและพิจารณาเกี่ยวกับเตาฮีด พร้อม

                       ทั้งตีความอายะฮ์ที่เกี่ยวกับคุณลักษณะของอัลลอฮ์  เช่นเดียวกับอิมามฟ๎กรุดดีน อัรรอซีย์

                        2)   อิมามอัลอามิดีย์         2  ได้แต่งหนังสือฆอยะฮ์ อัลมุรอม ฟี อิลมฺ อัลกะลาม  ـارضظا ةياغ (

                       ) ـ  لا ملع   เป็นหนังสือเตาฮีดที่เขียนตามแนวทางเคาะลัฟ เช่น ท่านอธิบายเกี่ยวกับศิฟ๎ตกะลาม

                       ในตอนหนึ่งว่า : “กลุ่มที่ถูกต้องจากบรรดาผู้นับถือศาสนาอิสลามได้มีทัศนะว่า พระเจ้าทรงไว้ซึ่งความ
                       สูงส่งยิ่ง เป็นผู้ทรงตรัสด้วยคําตรัสที่ดั้งเดิมทรงอยู่กับพระองค์รวมอยู่กับซาต ไม่มีอักษร และไม่ม ี

                       เสียง” (al-‟Āmidiy, n.d.: 87).

           กลุ่มเคาะลัฟมีความศรัทธาว่า ศิฟ๎ตกะลามของอัลลอฮ์ นั้นไม่ใช่เป็นคําตรัสที่มีหุรูฟ
                       และสามารถได้ยิน ดังคําอธิบายของอิมามอัลอามิดีย์ ซึ่งไม่เหมือนกับกลุ่มสะลัฟที่ศรัทธาว่า กะลามคือ

                       คําตรัสของอัลลอฮ์  ทรงมีหุรูฟและสามารถได้ยินกับผู้ที่พระองค์ทรงประสงค๋








                       1
                        ท่านมีชื่อเต็มว่า มุฮัมมัด เบ็น อุมัร เบ็น อัลฮะสัน เบ็น อัลฮุสัยนฺ อัตตัยมีย์ อัลบักรีย์ อะบู อับดุลลอฮ์ ฟ๎ครุดดีน อัรรอซีย์  เสียชีวิตใน
                        ปี ฮ.ศ. 606 al-Subkiy, 1413 : 8/81 ; al-Zirikliy, 2002 : 6/313).
                               (
                       2
                        ท่านมีชื่อเต็มว่า อะบู อัลฮะสัน อะลีย์ เบ็น มุฮัมมัด เบ็น สาลิม สัยฟุดดีน อัลอามิดีย์  เสียชีวิตในปี ฮ.ศ. 631 (al-Zirikliy, 2002 :
                        4/332 ; al-Dhahabiy, 1963: 2/259 ; Ἰbn Khalikān, 1900 : 3/293).
   106   107   108   109   110   111   112   113   114   115   116