Page 106 - การศึกษาวิเคราะห์หนังสืออะกีดะฮฺ อันนาญีน ฟี อิลมฺ อุศูล อัดดีน ของชัยคฺ ซัยนฺ อัลอาบิดีน เบ็น มุฮัมมัด อัลฟะฏอนีย์
P. 106

84







                                     ในบรรดาอุละมาอ์ศตวรรษที่ 5 ที่อธิบายและเผยแพร่อะกีดะฮ์เตาฮีดตามแนวทาง
                       เคาะลัฟ อาทิ เช่น
                                                          1
                                     1)  อิมามอัลบากิลลานีย์  ได้แต่งหนังสือตัมฮีด อัลอะวาอิล ฟี ตัลคีศ อัดดะลาอิล
                       ) لئ دلا صيخل    لئاكمأا دي حد) เป็นหนังสือที่อธิบายเตาฮีดตามแนวทางเคาะลัฟโดยใช้หลักตรรก


                       วิทยาประกอบการอธิบาย เช่น ท่านอธิบายว่า ผู้สร้างโลกนี้คือหนึ่งเดียวเท่านั้นและเป็นไปไม่ได้ที่ผู้

                       สร้างโลกนี้จะเป็นสองหรือมากกว่านั้น โดยกล่าวว่า :

                                     “และหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้คือ แท้จริงกับผู้สร้างสองคนนั้นจะเกิดความขัดแย้งกัน

                                     และจะพบผู้หนึ่งตรงข้ามความประสงค์ของอีกผู้หนึ่ง เช่น ผู้หนึ่งต้องการรักษาชีวิต

                                     ของร่างกายและอีกผู้หนึ่งต้องการให้ตาย แน่นอนทั้งสองจะพบกับความอ่อนแอหรือ

                                     ผู้หนึ่งผู้ใดของทั้งสอง เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดความสมบูรณ์กับทั้งสองที่ขัดแย้ง

                                     กัน ดังนั้นทั้งสองจะเกิดความอ่อนแอและความอ่อนแอเป็นส่วนหนึ่งของคุณลักษณะ

                                     สิ่งใหม่ และผู้ทรงนิรันดรคือพระเจ้าที่ไม่อนุญาตเป็นผู้ที่อ่อนแอ”   (al-Bāqillāniy,

                                     1987 : 45).
                                     อุละมาอ์เคาะลัฟจะใช้ความคิดและหลักตรรกวิทยาเป็นหลักในการอธิบายเตาฮีด

                       เพื่อการยืนหยัด แตกต่างกับอุละมาอ์สะลัฟที่ใช้หลักฐานจากอัลกุรอานและอัลฮะดีษในการยืนหยัดใน

                       เตาฮีด
                                                                   2
                                     2)  อิมามอับดุลกอฮิร  อัลบัฆดาดีย์  ได้แต่งหนังสืออุศูลุดดีน ( نيدلا ؿوصأ) เป็น
                       หนังสือที่อธิบายเตาฮีดตามแนวทางเคาะลัฟ เช่น ท่านอธิบายเกี่ยวกับศิฟ๎ตอัลวัจญ์และอัลอัยนฺว่า :

                                     “และที่ถูกต้องสําหรับเราคือ คําว่า “ ه جك” หมายถึง“ ه اذ” แปลว่า อาตมันของ


                                     พระองค์ และคําว่า “ هنيع” หมายถึง“ءايشنؤل ه يؤر” แปลว่า การเห็นของพระองค์
                                     ในสิ่งต่าง ๆ และคําตรัสของพระองค์  ﭼ  ﮆ  ﮅ   ﮄ  ﭽ (สูเราะฮ์อัรเราะหฺมาน :


                                     อายะฮ์ 27) ความหมายของมันคือ “  بر ىقبيك” แปลว่า“และพระเจ้าของเจ้าจะ
                                     ยังคงเหลืออยู่” และคําตรัสของพระองค์  ﭮ    ﭭ  ﭬ  ﭽ (สูเราะฮ์ฏอฮา: อายะฮ์
                                                                      ﭼ

                                     39) คือ “  م ةيؤر ىلع” แปลว่า “ภายใต้การเห็นของฉัน”   („Abd   al-Qāhir
                                     al-Baghdādiy, 2002 : 129-130).




                       1
                        ท่านมีชื่อเต็มว่า อะบู บักรฺ มุฮัมมัด เบ็น อัฏฏอยยิบ เบ็น มุฮัมมัด เบ็น ญะอฺฟ๎ร อัลบากิลลานีย์ เกิดในเมืองบัศเราะฮ์ เมื่อปี ฮ.ศ. 338
                        และเสียชีวิตในปี ฮ.ศ.403 (al-Dāwūd, 1983 : 6/176 ; al-Zirikliy, 2002 : 6/176).
                       2
                        ท่านมีชื่อเต็มว่า อะบู มันศูร อับดุลกอฮิร เบ็น ฏอฮิร เบ็น มุฮัมมัด เบ็น อับดุลลอฮ์ อัลบัฆดาดีย์ อัตตะมีมีย์ อัลอัสฟะรอยีนีย์ เสียชีวิต
                        ในปี ฮ.ศ. 429 al-Dhahabiy, 1985 : 17/572 ; al-Zirikliy, 2002 : 4/48).
                                 (
   101   102   103   104   105   106   107   108   109   110   111