Page 91 - 049
P. 91
77
้
ู
์
ี่
้
็
ึ
2. ความขัดแย้งทรสกได้ (Felt Conflict) เปนความเกี่ยวพันทางอารมณในการสราง
็
ี
ความขัดแย้ง เช่น ความโกรธ ความเครยด ความคับข้องใจ และความโมโหฉนเฉยว เปนต้น
ี
ุ
ี่
ี
ี่
ู
ื่
ี
ิ
ขั้นท 3 พฤตกรรม (Behavior) ความขัดแย้งเมอเข้าส่ขั้นท 3 น้ ผู้เกี่ยวข้องจะมการ
กระท าให้ไรผลต่อการท าให้บรรลเปาหมายของอกฝายหนง หรอพยายามปองกันการเพิ่ม
ึ
้
่
ี
่
้
ุ
้
ื
ื
ผลประโยชน์ของคนอน การกระท าเช่นน้ต้องเกิดความตั้งใจทจะให้เปนเช่นนั้น นั่นก็คอจะต้องใช้
ี่
็
ี
ื่
ี
ึ
่
้
้
ู
ี
่
ี่
ื
็
ุ
ี่
ึ
พลังความพยายามอย่างรส านกหรอจงใจเพื่อทจะให้อกฝายหนงไรผล ณ จดทเปนหัวเล้ยวหัวต่อน้ ี
ิ
ความขัดแย้งจะปรากฎออกมาอย่างเปดเผย เรยกว่าความขัดแย้งทปรากฎชัด (Over Conflict) ซงจะ
่
ี่
ี
ึ
ุ
ครอบคลมอยู่ตลอดช่วงระยะของพฤตกรรม คอ จะเร่มจากพฤตกรรมในรปแบบของการขัดขวาง
ื
ู
ิ
ิ
ิ
ู
ี่
ู
ทมเล่หกล อ้อมค้อมและถกควบคมอย่างสงไปส่รปแบบทตรงไปตรงมา ก้าวราว รนแรงและเปน
็
ุ
ุ
ู
ู
์
ี่
้
ี
ความพยายามต่อสด้นรนทควบคมไม่ได้
ู
ิ
้
ุ
ี่
ี่
ขั้นท 4 ผลลัพธ์ (Outcomes) ขั้นน้เกี่ยวเนองกันระหว่างพฤตกรรมขัดแย้งทปรากฏชัด
ี
ิ
ี่
ื่
ี่
็
์
กับพฤตกรรมควบคมความขัดแย้ง ได้ผลลัพธเปนผลทตามมาของความขัดแย้ง ซงผลทตามมา
ี่
ุ
ิ
ึ
่
ี
ึ
ุ
ิ
็
ื
ดังกล่าว อาจเปนประโยชน์หรอเพิ่มการปฏบัตงานกล่มให้ดข้น และในทางกลับกันก็อาจพิจารณา
ิ
่
ุ
ื
์
ี่
ิ
็
ิ
็
ว่าผลลัพธทตามมาไม่เปนประโยชน์หรอลดการปฏบัตงานกล่มให้ต าลงก็เปนได้
ิ
การบรหารความขัดแยง
้
ู
ื
ี
ิ
การบรหารความขัดแย้งหรอการจัดการความขัดแย้ง มรปแบบในการใช้วิธการแก้ไข
ี
ั
ึ
่
ึ
ิ
ความขัดแย้งแตกต่างกันออกไป ตามแนวคด ความเข้าใจในปญหา และความเชอ ซงข้นอยู่กับ
ื่
ุ
์
สถานการณในขณะนั้นเปนองค์ประกอบส าคัญ ข้นอยู่กับผู้บรหารทจะใช้ดลพินจพิจารณาให้
ี่
ิ
ึ
ิ
็
ึ
ถ่องแท้ดเสยก่อนและจงจะน าไปใช้ได้ (วิเชยร วิทยอดม, 2555) ความขัดแย้งเกิดข้นได้ง่ายแต่มักจะ
ี
ุ
ึ
ี
ี
์
แก้ไขได้ยาก การด าเนนการบรหารความขัดแย้งให้เกิดการสรางสรรค์และมประโยชนต่อหน่วยงาน
ี
ิ
้
ิ
โดยการลดหรอระงับความขัดแย้งให้อยู่ในระดับทเหมาะสม และกระต้นให้เกิดความขัดแย้งท ี่
ี่
ื
ุ
้
ิ
ุ
สรางสรรค์เพื่อการพัฒนา ซงผู้บรหารจะต้องด าเนนการแก้ไขด้วยปญญาและความสขุมรอบคอบ
ิ
ั
่
ึ
ี่
ิ
ื
ไม่ควรจะละเลยกับความขัดแย้งทเกิดข้นในลักษณะท าตัวอยู่เหนอความขัดแย้ง ผู้บรหารจะต้องหา
ึ
์
กลยุทธทหลากหลายในการบรหารความขัดแย้งนั้นๆ กลยุทธในการแก้ปญหาความขัดแย้ง เปน
ั
็
ิ
์
ี่
่
์
ั
ส่วนหนงของยุทธศาสตรในการแก้ปญหาความขัดแย้ง (นนท์ นนท์พยอม, 2545)
ึ
์
ั
โดยทั่วไปแล้ว ยุทธศาสตรในการแก้ปญหาความขัดแย้งจะมอยู่ 3 แบบ
ี
ุ
(มหาวิทยาลัยสโขทัยธรรมาธราช, 2544) ดังน้ ี
ิ
1. แบบแพ้- ชนะ (Win-Lose Strategy)
2. แบบแพ้-แพ้ (Lose-Lose Strategy) หรอแบบประนประนอม (Compromise)
ื
ี
3. แบบชนะ-ชนะ (Win-Win Strategy)