Page 86 - 049
P. 86
72
ี
ุ
ึ
ี
ปรยาพร วงศ์อนตรโรจน์ (2544) ได้กล่าวถงผลเสยของความขัดแย้งไว้ดังน้ ี
ื
1. คนท างานหมดก าลังใจ ท้อแท้ เบอหน่าย เกิดความเครยด บางคนก็ย้ายหรอลาออก
ี
ื่
ี
ิ
ี่
โดยเฉพาะคนทมความขัดแย้งทางความคดเกี่ยวกับเปาหมายขององค์กร ก่อให้เกิดการขาดก าลังคน
้
หน่วยงานอ่อนแอ
ิ
ุ
์
็
2. สัมพันธภาพของความเปนมตรระหว่างบคคลลดลง
ุ
ื่
ื
3. บรรยากาศของความเชอถอและไว้วางใจระหว่างบคคลหมดไป และเกิดความ
ทะเลาะเบาะแว้งข้นได้
ึ
ื
ี
4. มแรงต่อต้าน ท าให้การท างานขาดความร่วมมอไม่สามารถท างานเปนทมได้
ี
็
ความร่วมมอร่วมใจกันหมดไป
ื
ุ
ุ
ึ
สเทพ พงศ์ศรวัฒน์ (2544) ได้กล่าวถงผลเสยของความขัดแย้งซงท าให้ผลงานของกล่ม
่
ี
ี
ึ
ื
หรอองค์กรลดลง ไว้ดังน้ ี
ี่
1. ความขัดแย้งก่อให้เกิดอารมณเชงลบทเปนปฏปกษ์ต่อกันอย่างรนแรง ส่งผลให้แต่
ุ
ั
ิ
ิ
็
์
ี่
่
ละฝายทเกี่ยวข้องเกิดความเครยด
ี
ื
2. ความขัดแย้งขัดขวางและท าลายเสนทางสอสารระหว่างบคคล กล่มหรอแผนกงาน
้
ื่
ุ
ุ
ิ
ิ
ท าให้การประสานงานในการปฏบัตงานเกิดการชะงักงัน
ิ
็
3. ความขัดแย้งเปนส่งทท าให้ความตั้งใจและการใช้พลังความพยายามในการท างานให้
ี่
ุ
บรรลเปาหมายองค์กรของแต่ละคนถดถอยลง
้
ั
4. ความขัดแย้งส่งผลกระทบท าให้ผู้น าต้องปรบเปลยนแบบผู้น า (Leadership style)
ี่
เช่น จากผู้น าแบบการมส่วนร่วม (Participative Style) ไปเปนแบบเผด็จการ (Authoritarian) ด้วย
ี
็
็
ู
ึ
ู
ี
ความจ าเปนภายใต้ภาวะของความขัดแย้ง ทกฝายมความเครยดสง ผู้น าจงต้องเข้ามาก ากับดแลและ
ี
่
ุ
ี่
็
ื
ี่
สั่งการด้วยตนเองมากข้น เพื่อไม่ให้ทศทางทเปนเปาหมายของงานหรอองค์กรเบยงเบนไป แต่แบบ
ึ
ิ
้
ี่
ภาวะผู้น าเช่นน้ท าให้บรรยากาศทดของการท างานลดลงไปด้วยเช่นกัน
ี
ี
ิ
5. ท าให้แต่ละฝายทขัดแย้งกันเกิดการเล่นพรรคเล่นพวก เกิดอคต ล าเอยง ขาด
่
ี่
ี
้
้
ี
ุ
ึ
ุ
ิ
ี
ความยุตธรรม และอาจรนแรงถงขั้นให้รายปายสเพื่อจ้องท าลายกันทกวิถทาง