Page 51 - 049
P. 51
37
ิ
ิ
ี
ิ
็
อย่างมประสทธภาพ เพราะว่าเปนมาตรฐานเดยวกัน ลดความเปนอคตในการประเมนผล
ี
ิ
็
ี
่
ึ
ื
ิ
ิ
การปฏบัตงานของพนักงาน ซงจะส่งผลต่อประโยชน์ในระดับองค์กร คอ ท าให้องค์กรมมาตรฐาน
ุ
ี
ิ
ึ
ิ
กลางในการบรหารงานบคคล ผลการประเมนมความน่าเชอถอและสอดคล้องกันมากข้น ผู้ทท า
ื่
ื
ี่
ิ
ิ
ี
ี่
การตัดสนใจในองค์กรมความมั่นใจในความสามารถและทักษะทแท้จรงของพนักงาน สามารถ
ั
ี่
ี
ู
คาดคะเนสมรรถนะของแรงงานทต้องการและทมอยู่ในองค์กรได้ถกต้อง ปรบปรงประสทธภาพใน
ี่
ิ
ุ
ิ
การสรรหาบคคลเข้าท างานโดยการปรบสมรรถนะทต้องการให้สอดคล้องกับต าแหน่งงานทเสนอ
ี่
ั
ุ
ี่
ุ
ุ
ี่
ิ
ั
ั
ในการรบสมัครงาน สามารถทจะลงทนในการบรหารและพัฒนาทรพยากรบคคล ให้เกิดประโยชน ์
ิ
ุ
และมประสทธภาพสงสด ท าให้องค์กรสามารถพัฒนาและแปรเปลยนความสามารถของบคคลมา
ู
ี่
ุ
ี
ิ
เปนความสามารถในการแข่งขันและความยั่งยืนขององค์กรได้
็
แนวทางการพัฒนาสมรรถนะ
์
ุ
ิ
ิ
ั
ิ
อรญ โสตถพันธและคณะ (2548) ได้บรรยายในการประชมเชงปฏบัตการการจัดท า
ิ
ุ
ี
ี
สมรรถนะส าหรบบคลากรกรมส่งเสรมการเกษตร ว่าการพัฒนาสมรรถนะของข้าราชการ มวิธการ
ุ
ั
ิ
ด าเนนการได้ดังน้ ี
ิ
ึ
ุ
1. Continuing Education “C” หมายถง การส่งบคลากรไปศกษาต่อเพื่อให้ส าเรจวุฒ ิ
ึ
็
้
ี่
ู
ื่
ู
การศกษา เหมาะส าหรบการพัฒนาสมรรถนะด้านความรทต้องอาศัยการเรยนรอย่างต่อเนอง เปน
็
ี
ั
ึ
้
ึ
ี
ระบบและมสถาบันการศกษารบรองวิทยฐานะ
ั
ี่
ุ
ึ
ื
ึ
2. Expert Briefing “E” หมายถง การไปพูดคย ปรกษาหารอกับผู้เชยวชาญเฉพาะด้าน
์
ี่
ิ
ื่
ี่
ี
ั
เหมาะส าหรบกรณทสมรรถนะในเรองนั้นเปนข้อเทคนคผสมผสานกับประสบการณทต้องได้จาก
็
ิ
ิ
้
ู
ิ
ั
ผู้รผู้ปฏบัตในด้านนั้นจรงๆ และต้องการได้รบภายในเวลาอันสั้น
ุ
ุ
3. Job Rotation “J” หมายถง การหมนเวียนงาน เปนการสับเปลยนบคลากรใน
ี่
็
ึ
ี่
ิ
ั
ี
ิ
ิ
ี่
หน่วยงานให้ไปท าหน้าทในหน่วยงานใหม่ทมความเกี่ยวข้องกับงานเดมทปฏบัตอยู่ เหมาะส าหรบ
ี่
ั
ี่
กรณทสมรรถนะด้านนั้น ไม่สามารถพัฒนาได้จากงานในหน้าททเปนอยู่ในปจจบัน จ าเปนต้อง
็
ี่
ี่
็
ุ
ี
ิ
ี
ิ
เรยนรจากการเปลยนไปท าหน้าทอน เนองจากเปนสมรรถนะทต้องเรยนรจากการปฏบัตจรง
ู
้
ิ
ี่
ื่
ื่
ี
ี่
็
้
ี่
ู
ิ
ิ
ึ
ิ
4. On the Job Training “OJT” หมายถง การสอนงานในขณะปฏบัตงานจรงโดยมาก
้
ู
ิ
ิ
ี
แล้วจะเปนการพัฒนาบคลากรในเชงเทคนค เนองจากสมรรถนะในเรองนั้น ไม่สามารถเรยนรได้
ื่
ื่
็
ุ
ิ
จากการสอน การบรรยายในห้อง แต่ต้องลงมอปฏบัตจรงเท่านั้น จงจะพัฒนางานด้านน้ได้ และ
ื
ิ
ิ
ึ
ี
็
ี
ิ
ู
จ าเปนต้องมผู้ควบคมดแลอย่างใกล้ชด
ุ
ึ
่
5. Assignment “A” หมายถง การมอบหมายงานหรอโครงการใดโครงการหนงให้ไป
ื
ึ
ิ
ิ
ี
ด าเนนการ เพื่อให้มโอกาสในการพัฒนาสมรรถนะด้านนั้นได้อย่างแท้จรง โดยทั่วไปมักใช้ควบค่ ู
ื่
กับแนวทางอน