Page 45 - 049
P. 45
31
ั
2. ปจจัยด้านทักษะ (Skill) และศักยภาพ (Competencies) กล่าวคอ การพัฒนา
ื
็
ุ
ุ
ั
ทรพยากรมนษย์จะต้องเน้นการพิจารณาทักษะ และศักยภาพทจ าเปนส าหรบบคลากรเพื่อพัฒนาให้
ั
ี่
ี
ุ
ี
ี่
้
บคลากรมความร ความสามารถ และทักษะทสามารถท างานได้อย่างมประสทธภาพ
ิ
ิ
ู
ิ
ุ
ี่
3. ปจจัยด้านจตวิทยาทเน้นการสรางแรงจูงใจ (Motivation) กล่าวคอ นอกจากบคลากร
ื
้
ั
ี
ู
ี
ี่
้
ี่
่
้
ึ
ี่
มความร ความสามารถ ทักษะทด และมสถานทท างานทมความพรอมแล้ว ส่งหนงทมความจ าเปน
ี
ิ
็
ี
ี
ี่
ิ
ี
ไม่น้อยกว่า ก็คอ บคลากรต้องมก าลังใจ มความพึงพอใจ มความตั้งใจและเจตคตทดในการท างาน
ุ
ี
ี
ี
ี่
ื
ิ
ดังนั้น การสรางแรงจูงใจให้บคลากรจงเปนส่งทจ าเปนอย่างยิ่ง
ึ
้
็
ุ
็
ี่
ิ
้
ุ
จากความแตกต่างของสมรรถนะกับความร ทักษะ แรงจูงใจและทัศนคต ผู้วิจัยได้สรป
ู
ุ
ุ
ึ
ี่
ความหมายของสมรรถนะ หมายถง คณลักษณะและความสามารถทมาจากตัวบคคล สะท้อนออกมา
ี
ี่
ุ
์
ิ
ในรปของพฤตกรรมการท างานทมความสัมพันธในเชงเหตผล และก่อให้เกิดผลลัพธสงสด
ิ
ู
ู
ุ
์
ู
้
ี่
ี
ี่
(Superior Performance) ทองค์กรต้องการ โดยมทมาจากพื้นฐานความร (Knowledge) ทักษะ (Skill)
ี
ุ
ุ
ิ
วิธคด (Self – Concept) คณลักษณะส่วนบคคล (Trait) แรงจูงใจ (Motive) และประสบการณ ์
(Experience)
พื้นฐานแนวคิดของสมรรถนะ
ุ
แนวคดเรองสมรรถนะน้มพื้นฐานมาจากการม่งเสรมสรางความสามารถให้กับ
ี
ื่
ี
้
ิ
ิ
ี
ื่
ี่
ื่
ี
ทรพยากรบคคล โดยมความเชอว่าเมอพัฒนาคนให้มความสามารถแล้ว คนจะใช้ความสามารถทม ี
ุ
ั
้
ุ
ุ
ู
ไปผลักดันให้องค์กรบรรลเปาหมาย ดังนั้นการน าเรองสมรรถนะมาใช้ให้เกิดประโยชน์สงสดจง
ึ
ื่
ควรม่งพัฒนาทรพยากรบคคลขององค์กรเปนส าคัญ ต้องมการพิจารณาว่าบคคลในองค์กรม ี
ุ
ี
็
ุ
ุ
ั
ความสามารถอย่างไรจงจะท าให้องค์กรมค่แข่งและบรรลเปาหมายทตั้งไว้
ี
ึ
ุ
ี่
ู
้
์
องคประกอบและประเภทของสมรรถนะ
่
็
ื
ค าว่าสมรรถนะหรอความสามารถ เปนค านาม ซง ณรงค์วิทย์ แสนทอง (2548) ได้แบ่ง
ึ
ื
ี่
ประเภทของสมรรถนะ (Competencies) ตามแหล่งทมาออกเปน 3 ประเภท คอ
็
ุ
ุ
ุ
็
ี่
1. Personal Competencies เปนความสามารถทมเฉพาะตัวของบคคลหรอกล่มบคคล
ื
ี
เท่านั้น เช่น ความสามารถในด้านการวาดภาพของศลปน การแสดงกายกรรมของนักกีฬาบางคน
ิ
ิ
ื
ี
ู
้
ี
ื
็
ิ
ิ
ิ
นักประดษฐ์คดค้นส่งต่าง ๆ เหล่าน้ถอเปนความสามารถเฉพาะตัวทยากต่อการเรยนรหรอ
ี่
ลอกเลยนแบบได้
ี
2. Job Competencies เปนความสามารถเฉพาะบคคลทต าแหน่งหรอบทบาทนั้น ๆ
ื
ี่
็
ุ
ี่
ี
็
ุ
็
ต้องการเพื่อท าให้งานบรรลผลส าเรจตามทก าหนดไว้ เช่น ความสามารถในการเปนผู้น าทมงานของ
ผู้บรหารต าแหน่งหัวหน้ากล่มงาน ความสามารถในการวิเคราะหวิจัยในต าแหน่งงานทางด้าน
ิ
ุ
์
ึ
วิชาการ เปนความสามารถทสามารถฝกฝนและพัฒนาได้
็
ี่