Page 41 - 049
P. 41

27


                       เพื่อหาพฤตกรรมทแตกต่างกัน แล้วเรยกพฤตกรรมทก่อให้เกิดผลการปฏบัตงานทดว่า สมรรถนะ
                                ิ
                                                                                      ิ
                                                                                   ิ
                                                      ี
                                                            ิ
                                                                                           ี่
                                                                   ี่
                                                                                            ี
                                       ี่
                                           ิ
                         ุ
                                                          ี
                                ั
                                                                                          ิ
                                  ี
                                                                                             ื่
                       (สกัญญา รศมธรรมโชต, 2548) ต่อมาในป ค.ศ. 1973 McClelland ได้แสดงแนวคดเรองสมรรถนะ
                       ไว้ในบทความชอ Testing for Competence Rather Than Intelligence ว่า IQ ซงประกอบด้วย
                                    ื่
                                                                                       ึ
                                                                                       ่
                                                                ู
                                                                ้
                                  ื
                                                                          ุ
                                                                                        ็
                       ความถนัดหรอความเชยวชาญทางวิชาการ ความร และความม่งมั่นส่ความส าเรจ ไม่ใช่ตัวช้วัดทด ี
                                                                                                      ี่
                                                                                                  ี
                                          ี่
                                                                               ู
                                            ็
                                                                  ุ
                                                                              ิ
                                                                                 ี่
                                                                           ็
                       ของผลงานและความส าเรจโดยรวม แต่สมรรถนะบคคลกลับเปนส่งทสามารถคาดหมาย
                                                                                                 ึ
                               ็
                                               ่
                                               ึ
                                                                                         ิ
                                                           ็
                                                                              ี่
                       ความส าเรจในงานได้ดกว่า ซงสะท้อนให้เหนได้อย่างชัดเจนว่า ผู้ทท างานเก่ง มได้หมายถง ผู้ท ี่
                                          ี
                                          ี่
                       เรยนเก่งเสมอไป แต่ผู้ทประสบความส าเรจในการท างานต้องเปนผู้ทมความสามารถในการ
                                                         ็
                                                                                ี่
                        ี
                                                                           ็
                                                                                 ี
                                                     ี
                                                                                            ึ
                                                                                      ี่
                                          ื
                                                    ี่
                       ประยุกต์ใช้หลักการ หรอวิชาการทมอยู่ในตัวเอง เพื่อก่อประโยชน์ในงานทตนท า จงจะกล่าวได้ว่า
                                ี
                        ุ
                       บคคลนั้นมสมรรถนะ
                                                                     ิ
                                                                                                ็
                                                      ี
                                 ส าหรบประเทศไทยได้มการน าแนวความคด สมรรถนะมาใช้ในองค์กรทเปนเครอข่าย
                                                                                              ี่
                                                                                                     ื
                                      ั
                         ิ
                       บรษัทข้ามชาตก่อนทจะแพร่หลายเข้าไปส่บรษัทชั้นน าของประเทศ เช่น ไทยธนาคาร
                                   ิ
                                                          ู
                                                            ิ
                                        ี่
                                                                ี
                                                                                    ื่
                                                           ิ
                               ี
                         ื
                                              ์
                                         ิ
                                                                                                    ี่
                       เครอปูนซเมนต์ไทย ชนคอรเปอเรชั่น การปโตรเลยมแห่งประเทศไทย เนองจากภาคเอกชนทได้น า
                                                                            ี
                                                                                         ื่
                                                         ็
                                                                                                    ี
                       แนวคดสมรรถนะไปใช้ ท าให้เกิดผลส าเรจอย่างเหนได้ชัดเจน มผลให้เกิดการตนตัวและได้มการ
                                                                 ็
                            ิ
                              ิ
                       น าแนวคดน้ไปทดลองใช้ในหน่วยราชการ โดยส านักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรอน ได้น า
                                 ี
                                                                                                ื
                       แนวคดน้มาใช้ในการพัฒนาข้าราชการพลเรอน ในระยะแรกได้ทดลองใช้ในการพัฒนาทรพยากร
                              ี
                                                                                                  ั
                            ิ
                                                           ื
                       มนษย์โดยยึดหลักสมรรถนะ (Competency Based Human Resource Development) ในระบบ
                         ุ
                                             ู
                                   ิ
                                                                                         ุ
                       การสรรหาผู้บรหารระดับสง (Senior Executive System-SES) ใช้ในการปรบปรงระบบจ าแนก
                                                                                     ั
                                                   ั
                       ต าแหน่งและค่าตอบแทนในภาครฐ โดยยึดหลักสมรรถนะและก าหนดสมรรถนะต้นแบบของ
                                                                         ิ
                       ข้าราชการเพื่อพัฒนาสมรรถนะของข้าราชการและประสทธผลของหน่วยงานภาครฐ (ส านักงาน
                                                                                            ั
                                                                      ิ
                       คณะกรรมการข้าราชการพลเรอน, 2548)
                                                ื
                                 ความสาคัญและความหมายของสมรรถนะ

                                                                                                   ี
                                 ในโลกของการแข่งขันทางธรกิจ (ส านักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย, 2552) มการวิจัย
                                                         ุ
                                                                         ี
                                                                                  ี่
                       พบว่า การพัฒนาคน ค่แข่งจะสามารถตามทันต้องใช้เวลา 7 ป ในขณะทเทคโนโลยีใช้เวลาเพียง 1 ป ี
                                         ู
                       ก็ตามทันเพราะหาซ้อได้ ดังนั้น สมรรถนะ จงมความส าคัญต่อการปฏบัตงานของพนักงานและ
                                                            ึ
                                                              ี
                                                                                   ิ
                                                                                 ิ
                                       ื
                                                                 ี
                                                                         ู
                                                         ี
                              ึ
                              ่
                       องค์กรซงจะช่วยให้การคัดสรรบคคลทมลักษณะดทั้งความร ทักษะและความสามารถ ตลอดจน
                                                  ุ
                                                       ี่
                                                                         ้
                                                      ิ
                                 ี่
                                                        ิ
                                                                  ็
                           ิ
                       พฤตกรรมทเหมาะสมกับงาน เพื่อปฏบัตงานให้ส าเรจตามความต้องการขององค์กรอย่างแท้จรง
                                                                                                     ิ
                       ช่วยให้ผู้ปฏบัตงานทราบถงระดับความสามารถของตนเองว่าอยู่ในระดับใดและจะต้องพัฒนาใน
                                 ิ
                                             ึ
                                   ิ
                       เรองใด ช่วยให้เกิดการเรยนรด้วยตนเองมากข้น ช่วยสนับสนนให้ตัวช้วัดหลักของผลงาน (KPIs)
                                                                         ุ
                        ื่
                                           ี
                                                             ึ
                                                                                 ี
                                               ้
                                               ู
                                                                                                     ี
                                                                                      ุ
                       บรรลเปาหมาย เพราะสมรรถนะจะเปนตัวบ่งบอกได้ว่า ถ้าต้องการให้บรรลเปาหมายตามตัวช้วัด
                           ุ
                                                      ็
                             ้
                                                                                       ้
   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46