Page 39 - 049
P. 39

25


                                             ้
                                   2.1 การสรางรปแบบใหม่
                                                ู
                                                    ื
                                                            ู
                                    2.2 การปรบปรงหรอพัฒนารปแบบเดม
                                                 ุ
                                                                    ิ
                                             ั
                                                                                                ุ
                                                                                                    ิ
                                      ิ
                                                                           ื
                                 แนวคดของ Eisner (1979) ได้เสนอการทดสอบหรอประเมนโดยใช้ผู้ทรงคณวุฒด้วย
                                                                                  ิ
                                                                                         ์
                         ็
                                                                                           ื
                                                                                              ิ
                                           ึ
                       เหนว่าการวิจัยทางการศกษาส่วนใหญ่ ด าเนนการตามหลักการทางวิทยาศาสตรหรอเชงปรมาณมาก
                                                           ิ
                                                                                                  ิ
                                                           ี
                                                                                         ุ
                                                                                            ึ
                       เกินไปและในบางเรองก็ต้องการความละเอยดอ่อนมากกว่าการได้ตัวเลขแล้วสรป จงได้เสนอ
                                       ื่
                                                     ิ
                            ิ
                                                 ุ
                                      ิ
                       แนวคดการประเมนโดยผู้ทรงคณวุฒไว้ดังน้  ี
                                                            ิ
                                 1. การประเมนโดยแนวทางน้ มได้ประเมนโดยเน้นสัมฤทธ์ผลของเปาหมายหรอ
                                            ิ
                                                                    ิ
                                                          ี
                                                                                                   ื
                                                                                          ้
                                                                                   ิ
                                                                 ้
                                                               ิ
                       วัตถประสงค์ตามรปแบบของการประเมนแบบองเปาหมาย (Goal Based Model) การตอบสนอง
                                      ู
                                                        ิ
                          ุ
                                                              ู
                        ั
                                                 ี่
                       ปญหาและความต้องการของผู้ทเกี่ยวข้องตามรปแบบของการประเมนแบบสนองตอบ (Responsive
                                                                                ิ
                       Model) หรอการรองรบกระบวนการตัดสนใจตามรปแบบการประเมนองตามการตัดสนใจ
                                                         ิ
                                         ั
                                                                 ู
                                                                                              ิ
                                                                                  ิ
                                                                                ิ
                                ื
                                                             ่
                                                             ึ
                                                                          ิ
                                                                                     ุ
                                                                                          ิ
                       (Decision Making Model) แต่อย่างใดอย่างหนง แต่การประเมนโดยผู้ทรงคณวุฒ จะเน้น
                                                                                  ่
                                             ึ
                                                                                  ึ
                       การวิเคราะห วิจารณอย่างลกซ้งเฉพาะในประเด็นทถกน ามาพิจารณา ซงไม่จ าเปนต้องเกี่ยวโยงกับ
                                                                                         ็
                                                ึ
                                                                   ู
                                                                 ี่
                                        ์
                                 ์
                                                                                             ั
                                                               ิ
                                        ี่
                       วัตถประสงค์หรอผู้ทมส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสนใจเสมอไป แต่อาจจะผสมผสานปจจัยต่างๆ ใน
                                         ี
                          ุ
                                    ื
                       การพิจารณาเข้าด้วยกัน ตามวิจารณญาณของผู้ทรงคณวุฒเพื่อให้ได้ข้อสรปเกี่ยวกับคณภาพ
                                                                                    ุ
                                                                                             ุ
                                                                  ุ
                                                                       ิ
                                                        ิ
                                                          ี่
                                                                        ิ
                            ิ
                       ประสทธภาพ และความเหมาะสมของส่งทจะท าการประเมน
                              ิ
                                    ู
                                                   ิ
                                 2. รปแบบการประเมนทเน้นความเชยวชาญเฉพาะทาง (Specialization)ทพัฒนามาจาก
                                                      ี่
                                                                ี่
                                                                                              ี่
                                ์
                                                                         ิ
                       ศลปวิจารณ (Art Criticism) มาใช้เปนรปแบบของการประเมน โดยให้แนวคดว่าการวิพากษ์วิจารณ ์
                        ิ
                                                                                      ิ
                                                    ็
                                                       ู
                                                                                               ี
                                                                      ึ
                                                                    ี่
                       เปนการใช้วิจารณญาณในการบรรยายคณภาพของส่งทศกษา (Descriptive Aspect) ทมความ
                                                                                             ี่
                                                        ุ
                        ็
                                                                  ิ
                                  ึ
                                     ึ
                                                                      ็
                           ี
                                                     ี่
                                                                                         ็
                                                                                  ื่
                                                                                                  ุ
                       ละเอยดอ่อนลกซ้งและต้องอาศัยผู้เชยวชาญระดับสงมาเปนผู้วินจฉัย เนองจากเปนการวัดคณค่าไม่
                                                                            ิ
                                                                 ู
                                                                                                ิ
                                                                ู
                                                                ้
                                                                                      ิ
                               ิ
                       อาจประเมนด้วยเครองวัดใด ๆ และต้องใช้ความรความสามารถของผู้ประเมนอย่างแท้จรง ใน
                                       ื่
                                                                                         ึ
                       การตัดสนคณค่า (Evaluative Aspect) แนวคดน้ได้น ามาประยุกต์ใช้ในทางการศกษาระดับสงมาก
                                 ุ
                                                                                                   ู
                              ิ
                                                              ี
                                                           ิ
                                                ้
                               ็
                        ึ
                                                                               ึ
                                                             ี่
                              ี
                                                              ึ
                                                                           ิ
                       ข้น ทั้งน้เปนเพราะองค์ความรเฉพาะสาขา ผู้ทศกษาเรองนั้นจรงๆ จงจะทราบและเข้าใจอย่างลกซ้ง
                                                                                                     ึ
                                                                                                        ึ
                                                                   ื่
                                                ู
                                                                                         ึ
                                                                                      ึ
                                     ุ
                                         ึ
                                                ิ
                                                                     ื่
                       ดังนั้นในวงการอดมศกษาจงนยมน ารปแบบน้มาใช้ในเรองทต้องการความลกซ้งและ
                                              ึ
                                                             ี
                                                      ู
                                                                         ี่
                       ความเชยวชาญเฉพาะทางสง
                             ี่
                                             ู
                                                                                          ิ
                                 3. รปแบบทใช้ตัวบคคล คอ ผู้ทรงคณวุฒเปนเครองมอในการประเมน โดยให้
                                                                     ็
                                                               ุ
                                    ู
                                                                    ิ
                                                  ุ
                                                       ื
                                            ี่
                                                                          ื่
                                                                              ื
                                                                      ี่
                                                                    ิ
                                ื
                                                                        ี
                                                              ี
                                             ิ
                                                               ุ
                                         ุ
                                                                            ี
                             ื่
                                                  ี่
                       ความเชอถอว่าผู้ทรงคณวุฒนั้นเทยงธรรมและมดลพินจทด ทั้งน้มาตรฐานและเกณฑ์การพิจารณา
                                                      ์
                       ต่าง ๆ นั้นจะเกิดข้นจากประสบการณและความช านาญของผู้ทรงคณวุฒนั่นเอง
                                                                                   ิ
                                                                              ุ
                                      ึ
   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44