Page 258 - 049
P. 258
244
ื
ุ
ิ
ี
ึ
นอกจากน้ องค์ประกอบดังกล่าวได้บรรยายให้เหนถงคณลักษณะหรอพฤตกรรมของ
็
ิ
ึ
ผู้บรหารสถานศกษา สังกัดส านักงานคณะกรรมการการศกษาขั้นพื้นฐาน ในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ึ
ุ
ี่
ู
ิ
ุ
้
ทอยู่ภายใต้การปฏบัตงานในสถานการณความขัดแย้ง ให้สามารถบรรลเปาหมายสงสดขององค์กร
์
ิ
ิ
่
ึ
ิ
ุ
ได้อย่างสันตสข ซงตรงกับหลักการและแนวคดองค์ประกอบในความหมายเกี่ยวกับสมรรถนะของ
Boyatziz (1982) ทกล่าวว่า สมรรถนะ คอ แรงจูงใจ ลักษณะเฉพาะบคคล มโนทัศน์ในตน ความร ู ้
ื
ุ
ี่
ุ
ทักษะ คณค่า พฤตกรรมและทัศนคต ผสมผสานจนกลายเปนสมรรถนะในด้านต่างๆ ทท าให้มนษย์
ิ
ุ
็
ี่
ิ
สามารถด าเนนการกระท าให้บรรลผลส าเรจตามเปาหมายหรอวัตถประสงค์ขององค์กรได้
ื
็
้
ุ
ุ
ิ
ี
ิ
เมอพิจารณารายละเอยดแต่ละองค์ประกอบสมรรถนะการบรหารความขัดแย้ง ผู้วิจัย
ื่
ิ
อภปรายแต่ละองค์ประกอบ ดังน้ ี
่
ิ
องคประกอบที่ 1 การควบคมและบรหารความขัดแย้ง เปนบทบาทหนงทส าคัญส าหรบ
ี่
ึ
ุ
็
ั
์
ิ
ี
ี่
้
ู
ผู้บรหารสถานศกษา ทต้องเผชญอย่างหลกเลยงไม่ได้ ต้องอาศัยความรและทักษะจงจะสามารถ
ึ
ี่
ึ
ิ
็
ี่
บรหารองค์กรให้ประสบผลส าเรจได้ โดยเลอกรปแบบการจัดการความขัดแย้งทเหมาะสมกับ
ื
ู
ิ
ี
ิ
ื
ิ
ี่
ี
์
สถานการณนั้นๆ ได้แก่ การเจรจาต่อรอง สันตวิธ การเผชญหน้า การหลกเลยงหรอการถอนตัว
ู
ื
ู
ี่
ื่
ิ
เนองจากหากผู้บรหารเลอกใช้รปแบบการจัดการความขัดแย้งทไม่เหมาะสมอาจน าไปส่ความ
็
ี่
้
ิ
ึ
็
ึ
ี
ขัดแย้งทเพิ่มข้นและกลายเปนความรนแรงได้ ดังนั้นผู้บรหารจงต้องมความรและทักษะทจ าแปนใน
ุ
ี่
ู
ั
ู
ี
ุ
การแก้ไขความขัดแย้ง สอดคล้องกับ วิเชยร วิทยาอดม (2555) ได้เสนอรปแบบในการแก้ปญหา
ี่
ื่
ี
ิ
ี
ความขัดแย้งโดยการประนประนอม การหลกเลยง การกลบเกลอน การบังคับ และการเผชญหน้า
ิ
ี่
ิ
ุ
็
ั
็
แสดงให้เหนว่าการควบคมและบรหารความขัดแย้ง เปนส่งทมความส าคัญอย่างยิ่งส าหรบผู้บรหาร
ิ
ี
็
ุ
ู
ุ
ั
เหนได้จากผลการวิจัยในปจจบันทยืนยันและสนับสนนหลักสตรการฝกอบรมเกี่ยวกับการบรหาร
ี่
ึ
ิ
ความขัดแย้ง ทสามารถลดปญหาความขัดแย้งทรนแรงได้ อกทั้งยังลดการกระท าผิดระเบยบวินัย
ี่
ี
ี
ี่
ั
ุ
ั
ี
ุ
และยังช่วยพัฒนาภาวะผู้น าได้อกด้วย ดังนั้นกลวิธการปรบปรงหรอเปลยนแปลงเงอนไขเพื่อลด
ี่
ี
ื่
ื
ึ
ี
ั
์
ั
ความขัดแย้งเพียงอย่างเดยวจงยังไม่เพียงพอและไม่สามารถปรบเข้ากับสถานการณปจจบันได้
ุ
ึ
็
ิ
จงจ าเปนต้องพัฒนาทักษะในการบรหารความขัดแย้งด้วย