Page 257 - 049
P. 257
243
อภิปรายผล
ั
ู
้
็
การวิจัยคร้งน้เปนการสรางองค์ความรใหม่เกี่ยวกับการพัฒนาสมรรถนะการบรหาร
้
ิ
ี
ึ
ิ
ั
ความขัดแย้ง ส าหรบผู้บรหารสถานศกษา สังกัดส านักงานคณะกรรมการการศกษาขั้นพื้นฐาน
ึ
ื
ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซงผ่านขั้นตอนการวิจัยจ านวน 2 ระยะ คอ
ึ
่
็
ี่
์
ระยะท 1 เปนขั้นตอนการวิเคราะหองค์ประกอบสมรรถนะการบรหารความขัดแย้ง
ิ
ึ
ิ
ส าหรบผู้บรหารสถานศกษา สังกัดส านักงานคณะกรรมการการศกษาขั้นพื้นฐาน
ึ
ั
ในจังหวัดชายแดนภาคใต้
็
้
ี่
ิ
ู
ระยะท 2 เปนการสรางรปแบบการพัฒนาสมรรถนะการบรหารความขัดแย้ง
ึ
ิ
ั
ึ
ส าหรบผู้บรหารสถานศกษา สังกัดส านักงานคณะกรรมการการศกษาขั้นพื้นฐาน
ในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ิ
ี่
อนงผู้วิจัยขอน าเสนอการอภปรายผลการวิจัยตามผลทได้ในแต่ละระยะ ดังน้ ี
ึ
่
ั
ระยท 1 ผลการวิเคราะหองค์ประกอบสมรรถนะการบรหารความขัดแย้ง ส าหรบ
์
ิ
ี่
ิ
ึ
ึ
ผู้บรหารสถานศกษา สังกัดส านักงานคณะกรรมการการศกษาขั้นพื้นฐาน ในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ิ
ี่
้
ี
ี
ี
เมอน ามาพิจารณาเปรยบเทยบถงความสอดคล้องของผลทได้กับโครงสรางทางแนวคด ทฤษฎและ
ื่
ึ
ิ
ี
ี
ตัวแปร ปรากฎว่าองค์ประกอบส่วนใหญ่มความสอดคล้องกับขอบเขตทฤษฎและการปฏบัตในการ
ิ
ิ
ิ
ื
้
บรหารความขัดแย้ง กล่าวคอ องค์ประกอบและโครงสรางสมรรถนะการบรหารความขัดแย้งทั้ง 6
ิ
ิ
ั
ิ
ี่
องค์ประกอบ เปนแนวทางการปฏบัตงานในบทบาทหน้าททจ าเปนส าหรบผู้บรหารสถานศกษา
ี่
็
็
ึ
ี่
ิ
โดยไม่สามารถหลกเลยงได้ โดยเฉพาะในยุคทเรยกว่า “สงคมอดมปญญา” และ “พหนยม” ทเต็มไป
ุ
ี
ุ
ั
ี
ี่
ี่
ั
ด้วยความหลากหลายและความแตกต่าง