Page 93 - 040
P. 93
93
3) บรรยากาศแบบควบคุม (Controlled Climate) เป็นบรรยากาศที่
ผู้บริหารเนนความส าเร็จของงานเป็นส าคัญ ผู้บริหารมีการควบคุมตรวจตราและสั่งการให้ครูท า
้
ไม่สนใจความคิดเหน หลักการและเหตุผลของผู้อื่น เน้นแต่ผลสัมฤทธิ์ทางการท างาน แม้ครูจะไม่
็
ค่อยมีโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์กัน แต่เนองจากมีผลงานจึงท าให้ครูมีความภาคภูมิใจและมี
ื่
ก าลังใจอยู่บ้างที่จะท างาน
4) บรรยากาศแบบสนิทสนม (Familiar Climate) เป็นบรรยากาศที่มี
ความสัมพันธ์ฉันท์มิตรสหาย ผู้บริหารสนใจผลงานน้อย จนละเลยค าสั่ง กฎเกณฑ์ ระเบียบ หรือ
นิเทศงาน ครูไม่ค่อยสนใจท างาน แต่จะมีความสัมพันธ์ในด้านส่วนตัวดี ครูจะคอยกระตุ้น
ผู้บริหารให้ท าหน้าที่ให้เข้มแข็งขึ้นตลอดเวลา
5) บรรยากาศแบบรวบอ านาจ (Paternal Climate) เป็นบรรยากาศการ
ปฏิบัติงานที่ผู้บริหาร มีการออกค าสั่งควบคุมตรวจตราและนิเทศการปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิด
ผู้บริหารพยายามสร้างความ สัมพันธ์ฉันมิตร แต่คณะครูไม่ยอมนับถือความรู้และความสามารถของ
ู
ผู้บริหาร คณะครแบ่งเป็นกลุ่มๆ ท าให้ผลงานมีน้อยขวัญก าลังของคณะครูเสีย เพราะขาดทั้ง
็
ความสัมพันธ์ฉันท์มิตรและความภาคภูมิใจในผลส าเรจของงาน
6) บรรยากาศแบบซึมเซา (Close Climate) เป็นบรรยากาศที่มีการ
บริหารงานโดยขาดความรู้ ไม่มีสมรรถภาพในการบริหารบุคคล ขาดความคิดสร้างสรรค์และไม่
เคยแสดงพฤติกรรมของผู้น าที่ดีคณะครูเสียขวัญก าลังใจในการท างาน เพราะขาดความสัมพันธ์ฉัน
มิตร และขาดความภาคภูมิใจในการท างาน เป็นบรรยากาศที่ไม่พึงประสงค์ และต้องรบแก้ไข
ี
จากบรรยากาศขององค์การทั้ง 6 แบบนี้ บรรยากาศแบบแจ่มใส นับว่าเป็น
บรรยากาศที่พึงประสงค์ที่สุด ส่วนบรรยากาศแบบซึมเซาเป็นบรรยากาศที่ไม่พึงประสงค์ แนวทาง
ที่จะสร้างบรรยากาศของการท างานให้บุคลากรมีความสามารถ และมีประสิทธิภาพขึ้นนั้นก็คือ
ความสามารถของผู้บริหารที่มีภาวะผู้น าที่มีประสิทธิภาพ มีการสร้างบรรยากาศที่ท าให้ครูและ
บุคลากรกล้าคิด กล้าท า เปิดเผยต่อกันท าให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน และมีบรรยากาศของการ
ท างานเป็นทีม
9.2 วัฒนธรรมองค์การ
ื
องค์การมีแบบแผนการด าเนินงานที่แตกต่างกัน ซึ่งวิธีการหรอสิ่งที่นิยม
ปฏิบัติในองค์การแต่ละแห่งนั้นมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการท างานของบุคคลในองค์การ
สิ่งที่สร้างความแตกต่างแก่องค์การแต่ละแห่งคือวัฒนธรรมองค์การ (ชัยเสฏฐ์ พรหมศร, 2551 :
ี
51) วัฒนธรรมองค์การเปรียบเสมือนกุญแจส าคัญที่จะเปิดความส าเรจเข้าสู่องค์การ และเป็นหัวใจ
็
ส าคัญขององค์การในการเป็นแบบแผนให้บุคลากรในองค์การยึดและปฏิบัติตาม เพื่อเป็นกรอบ