Page 98 - 040

98

ุ
วิเชียร วิทยอดม (2547 : 18) ได้กล่าวถึง ประสิทธิผลขององค์การว่า
ความมีประสิทธิผลขององค์การ ประกอบด้วยความมีประสิทธิผลของบุคคลและกลุ่มรวมกัน

มุมมองความมีประสิทธิผลขององค์การ ก็โดยพิจารณาว่า ความมีประสิทธิผลขององค์การนั้นมี

มากกว่าผลบวกของความมีประสิทธิผลของบุคคลและของกลุ่มรวมกัน องค์การก็จะมีผลการ
ด าเนินงานที่ดี

Hoy และ Miskel (1991 : 51) ได้ให้ความหมายของประสิทธิผลของ

ื
ู
โรงเรียนว่า ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการหรอความพึงพอใจในงานของคร สามารถวัดได้จาก 4
ประการ คือ 1. การปรับตัวของโรงเรียน (Adaptation) 2. การบรรลุเป้าหมายของโรงเรียน
(Goal Achievement) 3. การประสานสัมพันธ์ที่ดีของบุคลากรในโรงเรียน (Integration)

4. การคงสภาพสมบูรณ์ของระบบค่านิยมในโรงเรียน (Latency)
ประสิทธิผลที่เกิดขึ้นแบ่งได้ 2 ระดับ

1) ประสิทธิผลของบุคคล

2) ประสิทธิผลขององค์การ

ประสิทธิผลของบุคคล คือลักษณะของบุคคลที่มีความสามารถปฏิบัติงานหรือ
กิจกรรม แล้วประสบความส าเร็จท าให้เกิดผลโดยทางตรงและครบถ้วนตามวัตถุประสงค์ ผลที่

เกิดขึ้นมีลักษณะคุณภาพ ตรงกับความหวังและความต้องการของหมู่คณะ และสังคม

้
ประสิทธิผลขององค์การ คือการเนนไปที่ผลรวมขององค์การ ซึ่ง Gibson และ
คณะ (Gibson and others, 1982 อ้างถึงใน ภารดี อนันต์นาวี : 2551 ) อธิบายถึงหลักเกณฑ์ของ
ความมีประสิทธิผลขององค์การว่าประกอบด้วยตัวบ่งชี้ 5 ตัว คือ

1) การผลิต (Production)

2) ประสิทธิภาพ (Efficiency)
3) ความพึงพอใจ (Satisfaction)

4) การปรับเปลี่ยน (Adaptiveness) \

5) การพัฒนา (Development)
และวิโรจน์ สารรัตนะ ( 2545, อ้างในถึง สมคิด สร้อยน้ า, 2547 : 29) ได้ศึกษาวิจัย

เกี่ยวกับปัจจัยทางการบรหารที่ส่งผลต่อความเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ในโรงเรียนประถมศึกษา
ิ
สังกัดคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ เขตการศึกษา 9 ซึ่งได้ก าหนดปัจจัยความมี
ประสิทธิผลของโรงเรียนเป็นปัจจัยหนึ่งทีมีอิทธิพลต่อความเป็นองค์การแห่งการเรียนรในโรงเรียน
ู้
ประถมศึกษาไว้ว่า โรงเรียนที่มีประสิทธิผลที่เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ มีลักษณะประกอบด้วย

1) การเนนนักเรียนเป็นศูนย์กลาง 2) การมีแผนงานวิชาการที่ดี 3) การจัดการเรียนการสอนที่
้