Page 70 - 040
P. 70

70







                                     จากการค้นคว้าและศึกษางานวิจัยของชูเกียรติ  บุญกะนันท์  (2550 : 31)
                          ิ
                       จ าเรญ  จิตรหลัง (2550 : 70 ) และศศกร  ไชยค าหาญ (2550 : 32)  ได้กล่าวถึงลักษณะโครงสร้าง
                       ที่เหมาะสมขององค์การแห่งการเรียนรู้ซึ่งมีความสอดคล้องกันว่า  ควรมีความยืดหยุ่นและมีระบบ

                       มีบรรยากาศที่เปิดเผย  มีความกะทัดรัด ความเป็นอิสระและการให้โอกาส  ควรค านึงถึงปัจจัยที่
                                               ี
                       ส่งเสริมและสนับสนุนการเรยนรู้เป็นส าคัญ  มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน มีโครงสร้างที่
                       แบนราบก่อให้เกิดความคล่อง  โครงสร้างเป็นแบบองค์รวมที่เปิดกว้างไร้ขอบเขต  เป็นพลวัตและ

                       เปลี่ยนแปลงได้ง่าย  เน้นการท างานเป็นทีมขนาดเล็ก  มีโครงสร้างแบบเครอข่าย และมีการก าหนด
                                                                                     ื
                       หน้าที่รับผิดชอบในต าแหน่งอย่างมีระบบ  และสมคิด  สร้อยน้ า (2547 : 40) ได้เสนอเพิ่มเติมใน

                               ั
                       ด้านการจดระบบการติดต่อประสานงานที่ดี  การธ ารงพัฒนาบุคลากรในโครงสร้าง  และการจัด
                       ระบบการให้คุณและโทษและความดีความชอบ
                                                                               ้
                                           จากที่กล่าวมาข้างต้น  สามารถสรุปได้ว่า  โครงสรางขององค์การมีอิทธิพลต่อการ
                       เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้  ดังนั้นการที่โรงเรียนจะสามารถด าเนินการบรรลุวัตถุประสงค์และ

                       เป้าหมายที่ตั้งไว้นั้น  การจัดโครงสร้างองค์การที่ดีและเหมาะสมจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส าคัญและ

                       สามารถน าโรงเรียนสู่การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้  และโครงสร้างที่ดีและเหมาะสมควรมี
                       ลักษณะการบังคับบังชาโดยตรง  ไม่ซับซ้อน เพื่ออ านวยให้เกิดความอิสระในการท างาน

                       มีบรรยากาศที่เปิดเผย  มีความกะทัดรัด  มีความยืดหยุ่น  เกิดความคล่องตัวในในการประสาน

                                     ื
                       งานกับทีมงานหรอแผนกอื่น ๆ  มากขึ้น
                                                     ั
                                           3. ปัจจัยด้านวิสัยทศน์และกลยุทธ์
                                               ผู้บริหารหรือผู้น าเป็นผู้ที่มีบทบาทส าคัญในการที่จะสร้างองค์การให้มี

                                             ื
                       ประสิทธิภาพ  ผู้บริหารหรอผู้น าจะต้องเป็นผู้ที่รู้จักสร้างวิสัยทัศน์และก าหนดวิสัยทัศน์ที่เหมาะสม
                                                          ิ
                       กับสภาพแวดล้อมขององค์การ ดังนั้นผู้บรหารสถานศึกษาจะต้องสามารถก าหนดวิสัยทัศน์  คือรู้จัก
                       สร้างภาพอนาคตที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของสถานศึกษาของตน  และมุ่งมั่นผลักดันทุก

                       วิถีทางที่จะให้ภาพอนาคตตามวิสัยทัศน์นั้นเป็นจริง  เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลใน

                       การบริหารงานในสถานศึกษา  การรู้จักก าหนดวิสัยทัศน์  จะท าให้
                                                                              ็
                                               1)  เห็นทิศทาง  เป้าหมายในการท างานให้ส าเรจตามแผนที่วางไว้
                                               2)  เป็นตัวก าหนดขอบข่ายของงานและภาระหน้าที่

                                               3)  บุคลากรต้องท างานให้สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน
                                               4)  มีสร้างขวัญและก าลังใจให้แก่ผู้ร่วมงาน

                                                     5)   เกิดการสร้างทีมงาน
   65   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75