Page 66 - 040
P. 66
66
3.2 ท าการปรับปรุงแก้ไขโครงสร้างองค์การของโรงเรียน (Modifying
Organization structure)
่
3.3 สร้างกระบวนการให้เกิดความร่วมมือรวมใจ (Building Collaborative
Process)
3.4 การบริหารจัดการสภาพแวดล้อม (Managing the environment)
(สุเทพ พงศ์ศรีวัฒน์, 2549 ข : ออนไลน์)
โรงเรียนแห่งการเรียนรู้จะเจริญก้าวหน้าไปอย่างต่อเนื่องจ าเป็นต้องอาศัย
ี
บุคลากรในโรงเรยนและบุคลากรอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริหารสถานศึกษาที่ควรมี
ลักษณะความเป็นผู้น าแบบเปลี่ยนแปลงและมีบทบาทส าคัญในการก าหนดทิศทางของโรงเรียน
พัฒนาบุคลากร และพัฒนาองค์กรของโรงเรียน เพื่อที่จะท าให้โรงเรียนเป็นองค์การแห่งการ
เรียนรู้อย่างแท้จริง
้
2. ปัจจัยด้านโครงสรางขององค์การ
การจัดโครงสร้างองค์การเป็นหน้าที่ทางการบริหารของผู้บริหาร ซึ่งเป็นการจด
ั
่
ส่วนประกอบต่าง ๆ ขององค์การให้สามารถปฏิบัติงานรวมกันให้บรรลุเป้าหมาย โดยมีการแบ่ง
งานกันท า และจัดคนให้ท างานในต าแหน่งต่างๆ ว่าใครท าหน้าที่อะไรและรับผิดชอบอะไร
โครงสร้างจึงสิ่งจ าเป็นที่ก าหนดพฤติกรรมของสมาชิกในองค์การ ซึ่งโครงสร้างขององค์การจะท า
หน้าที่ที่ส าคัญ 3 ประการ คือ
้
1. โครงสร้างช่วยให้องค์การสามารถปฏิบัติงานสร้างและสรางผลผลิตของ
องค์การเป้าหมายที่วางไว้
2. โครงสร้างจะควบคุมพฤติกรรมที่แตกต่างหลากหลายของบุคคลในองค์การ
ให้มีความเบี่ยงเบนน้อยที่สุด และให้สมาชิกขององค์การปฏิบัติตามความต้องการขององค์การ
3. โครงสร้างองค์การจะก าหนดโครงสร้างใช้อ านาจและการตัดสินใจใน
องค์การ (วัชัย มีชาติ 2549 : 193)
หน้าที่ของการจัดองค์การนั้นเป็นการก าหนดโครงสร้างที่เหมาะสมเพื่อให้กิจกรรม
บรรลุเป้าหมาย (Goal-Seeking Activity) และยังแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ด้านอ านาจหน้าที่
(Authority) และความรับผิดชอบ (Responsibility) ระหว่างงานด้านต่าง ๆ ในองค์การ โดยจะ
ชี้ให้เห็นว่าใครจะต้องรายงานให้แก่ใคร หรือใครบังคับบัญชาใครนั่นเอง (Who Reports to
Whom) จึงกล่าวได้ว่าโครงสร้างองค์การมีความสัมพันธ์โดยตรงกับการบรรลุเป้าหมายขององค์การ
โครงสร้างขององค์การได้ช่วยและสนับสนุนให้งานในหน้าที่ต่าง ๆ ขององค์การ
ด าเนินไปด้วยดี ดังเหตุผลต่อไปนี้