Page 67 - 040
P. 67
67
1. โครงสร้างขององค์การก าหนดอ านาจหน้าที่และความรับผิดชอบ โดยระบุให้
เห็นว่าใครบังคับบัญชาใคร และใครมีความรับผิดชอบในงานประเภทใด นอกจากนี้โครงสร้าง
ขององค์การยังช่วยให้สมาชิกในองค์การรู้บทบาทของตนและบทบาทของผู้อื่นที่เกี่ยวข้อง
2. โครงสร้างขององค์การได้แสดงให้เห็นการติดต่อสื่อสารและการประสานงาน
ในการร่วมกิจกรรมและบุคลากรประเภทต่าง ๆ ด้วยกัน โครงสร้างขององค์การจะระบุให้เห็นถึง
ลักษณะการติดต่อสื่อสารระหว่างงานบุคคลเหล่านั้นท าอยู่
3. โครงสร้างขององค์การก าหนดการตัดสินใจให้ฝ่ายบริหารระดับสูงในองค์การ
เกี่ยวกับงานด้านต่าง ๆ ที่ด าเนินการ
4. โครงสร้างขององค์การก าหนดความสมดุลอย่างเหมาะสมและการให้ความ
ส าคัญแก่กิจกรรมองค์ประกอบหลักในการบรหารงานองค์การมี 5 ส่วน (ธร สุนทรายุทธ, 2551 :
ิ
146-147) คือ
1) ผู้บริหารระดับสูง (Strategic Apex) หมายถึงผู้บริหารระดับสูงและผู้ช่วย
ผู้บริหารกลุ่มนี้จะท าหน้าที่รบผิดชอบท างานให้บรรลุตามเป้าหมาย เป็นผู้เชื่อมโยงหัวหน้าผู้
ั
ปฏิบัติการต่าง ๆ
2) ผู้บริหารระดับกลาง (Middle Line) หมายถึงหัวหน้าผู้ปฏิบัติการต่าง ๆ
3) ผู้ปฏิบัติการ (Operating Core) หมายถึงผู้ปฏิบัติงานทั่ว ๆ ไปที่เกี่ยวข้อง
โดยตรงกับการผลผลิตเป็นหลัก
4) ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ (Techno Structure) หมายถึง ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางต่าง ๆ
5) ผู้ให้การสนับสนุน (Support Staff) หมายถึงผู้ท างานในหน่วยงานเฉพาะ
ด้านเพื่อสนับสนุนการด าเนินงานแก่ผู้ปฏิบัติงาน
จากองค์ประกอบขององค์การที่ส าคัญของบุคคล 5 ประเภทและกลไกการประสาน
งานทั้ง 5 ประเภทท าให้เกิดลักษณะโครงสร้างพื้นฐาน 3 ประเภทดังนี้
1) โครงสร้างอย่างง่าย (Simple Structure) เป็นโครงสร้างที่ใช้ผู้บริหาร
ระดับสูงเป็นองค์ประกอบที่ส าคัญ และใช้การนิเทศเป็นกลไกในการประสานงาน
2) โครงสร้างราชการแบบจักรกล (Machine Bureaucracy) เป็นโครงสร้างที่ใช้
ผู้เชี่ยวชาญเป็นองค์ประกอบส าคัญและใช้มาตรฐานกระบวนการท างานเป็นหลักการประสานงาน
3) โครงสร้างราชการแบบวิชาชีพ (Professional Bureaucracy) เป็นโครงสร้าง
ที่ผู้ปฏิบัติงานหลักเป็นองค์ประกอบที่ส าคัญ และใช้มาตรฐานทางทักษะเป็นกลไกการประสานงาน