Page 35 - 040

35

ขีดความสามารถของตน และส่งผลให้องค์การเจริญเติบโตและพัฒนาต่อไปโดยไม่มีที่สิ้นสุด
(จ าเริญ จิตรหลัง, 2544 : 36)

ความหมายและแนวคิดเกี่ยวกับองค์การแห่งการเรียนร ู้

ื
จากแนวความคิดต่างๆ ของนักวิชาการและนักวิจัย องค์การแห่งการเรียนรู้หรอ
Learning Organization มีความหมายดังต่อไปนี้

วิชัย วงษ์ใหญ (2542 : 10) ให้ความหมายของการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ว่า
่
องค์การที่บุคลากรในองค์การเพิ่มพูนความสามารถอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างผลงานตามที่ต้องการมี
์
ื่
การปรับปรุงเปลี่ยนแปลง องค์การอย่างต่อเนองเป็นกระบวนการเชิงประสบการณ ส่งเสริม
รูปแบบการคิดของการเรียนรู้ร่วมกัน และเสริมสร้างวัฒนธรรมการคิดอย่างเป็นระบบ เพื่อช่วย

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมองค์การ

Senge (1990 : 3) ให้ความหมายขององค์การแห่งการเรียนรู้ว่า เป็นองค์การที่ซึ่งคน
ในองค์การได้ขยายขอบเขตความสามารถของตนอย่างต่อเนื่องทั้งในระดับบุคคล และระดับ

องค์การเพื่อน าไปสู่จุดมุ่งหมายที่บุคคลในระดับต่างๆ ต้องการอย่างแท้จริง เป็นองค์การที่มีความคิด

ใหม่ๆ และแตกแขนงของความคิดได้รับการยอมรับ เอาใจใส่ และเป็นองค์การที่ซึ่งบุคคลเรียนรู้
อย่างต่อเนื่องในเรื่องของวิธีการที่จะเรียนรู้ไปด้วยกันทั้งองค์การ

วิโรจน์ สารรตนะ (2544 : 6-7) ได้สรุปเกี่ยวกับองค์การแห่งการเรียนรู้ว่า “องค์การ
ั
แห่งการเรียนร” เป็นสิ่งที่ผู้บริหารยุคใหม่จะต้องสร้างขึ้น เป็นสิ่งที่ผู้บริหารต้องแสดงภาวะผู้น าใน
ู้
การจัดหาหรอแสวงหาโอกาสเพื่อให้การเรียนรู้ใหม่ๆได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยความเชื่อที่ว่า
ื
คนยิ่งเรียนรก็ยิ่งขยายขีดความสามารถของตนออกไป องค์การที่ก่อให้เกิดการเรียนรู้ก็จะเตบโต
ู้
ิ
พัฒนาต่อไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด องค์การแห่งการเรียนรู้เป็นองค์การที่ซึ่งสมาชิกได้พัฒนาขยายขีด

ความสามารถของตน เพื่อการสร้างสรรค์งานและการบรรลุเป้าหมายงานอย่างต่อเนอง เป็นที่ซึ่ง
ื่
แนวคิดแปลก ๆ ใหม่ ๆได้รับการกระตุ้นให้มีการแสดงออก เป็นที่ซึ่งความทะเยอทะยานและแรง

บันดาลใจของกลุ่มสมาชิกได้รับการสนับสนุนและส่งเสริม เป็นที่ซึ่งสมาชิกขององค์การได้เรียนร ู้

ถึงวิธีการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เป็นที่ซึ่งองค์การได้มีการขยายศักยภาพเพื่อการแก้ปัญหาและ
ื่
ื่
สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่องเป็นที่ซึ่งเกี่ยวกับเรองของความเจริญก้าวหน้า เป็นเรองการ
เปลี่ยนใหม่ของตนเองอย่างต่อเนอง เป็นเรื่องขององค์การและชุมชนที่ไม่เคยอิ่มตัว เป็นเรองของ
ื่
ื่
องค์การและชุมชนที่มีความตระหนักในตนเองอยู่เสมอ ในอันที่จะเสาะแสวงหาความเป็นไปได้
และโอกาสใหม่ ๆ เพื่อความเจรญเติบโตก้าวหน้า เป็นเรื่องขององค์การและชุมชนที่เนนการมีข้อมูล
ิ
้
ย้อนกลับเน้นการสืบเสาะหาปัญหาเพื่อปรับปรุงสภาพการณ์ที่เป็นอยู่ด้วยการคิดอย่างเป็นภาพรวม

(Holistic) ทั้งมิติความเป็นเหตุเป็นผลและมิติการใช้ดุลพินิจ ทั้งในเรองของความรู้และในเรองของ
ื่
ื่