Page 34 - 040
P. 34

34







                       หรือ “ วินัย 5 ประการ “ โดยหนังสือเล่มนี้ Senge ใช้ค าว่า Learning Organization แทนค าว่า
                       Organization Learning ซึ่งเป็นหนังสือที่กล่าวถึงพื้นฐานของวินัย 5 ประการ ที่จะน าไปสู่องค์การ

                       แห่งการเรียนรู้ เป็นลักษณะเชิงทฤษฎี (ปัญญา  อัศวกุลประดิษฐ์, 2544 : 8)  ต่อมาในปี 1994 Senge

                       ได้ออกหนังสือเชิง ปฏิบัติการเกี่ยวกับวินัย 5 ประการ ในชื่อ The Fifth Discipline Field book :
                       Strategies and Tools for Building a Learning Organization (1994)  เพื่อให้ข้อแนะน าและแนวทาง

                                                         ู้
                       ที่สนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการเรียนรร่วมกันในองค์การ และในปี 1998 Senge ได้ออกหนังสือ
                       อีกเล่มชื่อ The Fifth Discipline Challenge : Mastering The Twelve Challenge to Change in
                       Learning Organization (1998)   แนวคิดเพื่อน า องค์กรไปสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้

                       (Learning Organization : LO) และได้รับความนิยมปฏิบัติกันอย่างแพร่หลายในเวลาต่อมา

                       จนกระทั่ง American Society for Training Development-ASTD สมาคมเพื่อการฝึกอบรมและ
                       พัฒนาทรัพยากรที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศเกียรติคุณให้เขาเป็นนักวิชาการเกียรติคุณ

                       ดีเด่น ประจ า ปี ค.ศ.2000  Peter M. Senge กล่าวว่า “Learning  in  organization  means the

                       continuous  testing  of experience,  and  the  transformation  of  that  experience  into

                       knowledge—accessible to  the whole  organization,  and  relevant  to  its  core  purpose. ” ซึ่งมี
                       นักวิชาการไทยให้ค า จ ากัดความไว้ว่า “องค์กรที่บุคลากรภายในองค์กรได้ขยายความสามารถของ

                       ตนอย่างต่อเนื่องทั้งในระดับบุคคล ระดับกลุ่มบุคคลและระดับองค์กร เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่บุคคลใน

                       ระดับต่างๆ ต้องการอย่างแท้จริง เป็นองค์กรที่บุคลากรมีความคิดใหม่ๆ และการแตกแขนงของ

                       ความคิดได้รับการยอมรับเอาใจใส่ เป็นองค์กรที่บุคลากรในองค์กรมีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
                       ด้วยวิธีการที่จะเรียนรู้ไปด้วยกันทั้งองค์กร” (สาริน(นามแฝง), 2547 : 12)

                                          ส าหรับการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับองค์การแห่งการเรียนรู้ในประเทศไทย

                          ิ
                       จ าเรญ  จิตรหลัง  ได้ศึกษาค้นคว้าพบว่า  องค์การแห่งการเรียนรู้  เพิ่งจะเริ่มมีการกล่าวถึงในช่วง
                       ปีพุทธศักราช  2544  โดยวีรวัฒน์  ปันนิตามัยได้แต่งหนังสือเรอง  “การพัฒนาองค์การแห่งการ
                                                                          ื่
                       เรียนร”  ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับแนวทางสร้างองค์การแห่งการเรียนรู้เพื่อความอยู่รอดและความยั่งยืน
                            ู้
                       ขององค์การ (วีรวัฒน์  ปันนิตามัย, 2544 : 4)  ในปีต่อมา  วิโรจน์  สารรัตนะ  (2544 : 6-7)  ได้เขียน
                       หนังสือชื่อ “ โรงเรียน : องค์การแห่งการเรียนรู้ (กรอบแนวคิดเชิงทฤษฎีทางการบรหารการศึกษา)”
                                                                                            ิ
                       เป็นหนังสือที่มีการวเคราะห์งานเขียนของนักวิชาการทางตะวันตก  เช่น  Hoy  และ  Miskel (2001 :
                                        ิ
                       32)  Razik  และ  Swason (2001 : 20)  ได้กล่าวสรุปถึงองค์การแห่งการเรียนรู้ว่า  เป็นสิ่งที่มี
                       ผู้บริหารยุคใหม่จะต้องสร้างขึ้น  เป็นสิ่งที่ผู้บริหารจะต้องแสดงภาวะความเป็นผู้น าในการแสวงหา

                       โอกาส  เพื่อให้การเรียนรู้ใหม่ ๆ  ได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ด้วยความเชื่อว่า  คนยิ่งเรียนรู้ยิ่งจะขยาย
   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39