Page 64 - 028
P. 64

46








                                     เนื่องจากการอาบน้ําที่สมบูรณ ดังนั้นใครในหมูพวกเจาที่ม ี
                                     ความสามารถก็ใหลางหนาผากและขาของเขาใหเกินกวาขอบเขต ”
                                                      


                                                                 ู
                                     หะดีษบทนี้อธบายวาทานอาบูฮรอยเราะฮฺ  ไดเอาน้ําละหมาดโดยยึดตาม
                                                  ิ
                                                                                                    
                                             
                       แบบอยางจากทานนบี พรอมเลาวาครั้งหนึ่งเขาไดเห็นทานนบีสาธิตการเอาน้ําละหมาด พรอมกัน
                       นั้นทานนบียังไดอธบายคุณคาของผูทเอาน้ําละหมาดที่สมบูรณและเพิ่มขอบเขตในการลาง
                                       ิ
                                                      ี่
                                                                          ู
                                     ในสวนของการจัดการเรียนการสอนที่เนนผเรยนเปนสําคัญนั้นมีตัวอยางการชี้นํา
                                                                           ี
                       จากทานนบีมูฮมหมัด   ดังหะดีษที่วา
                                   ั

                                          ﻦﻣ ﻥﺇ    :     ﻝﺎﻗ ،                 ﱯﻨﻟﺍ ﻦﻋ ﺎﻤﻬﻨﻋ ﷲﺍ ﻲﺿﺭ ﺮﻤﻋ ﻦﺑﺍ ﻦﻋ    ) )
                                                         ﱐﻮﺛﺪﺣ ، ﻢﻠﺴﳌﺍ ﻞﺜﻣ ﺎﺃﻭ ﺎﻬﻗﺭﻭ ﻂﻘﺴﻳ ﻻ ﺓﺮﺠﺷ ﺮﺠﺸﻟﺍ

                                       :                   ﷲﺍﺪﺒﻋ ﻝﺎﻗ ، ﻱﺩﺍﻮﺒﻟﺍ  ﺮﺠﺷ ﰲ ﺱﺎﻨﻟﺍ ﻊﻗﻮﻓ    :       ﻝﺎﻗ ؟ ﻲﻫﺎﻣ

                                             ﻝﻮﺳﺭﺎﻳ ﻲﻫﺎﻣ ﺎﻨﺛﺪﺣ    :                ﺍﻮﻟﺎﻗ ﰒ ، ﺔﻠﳔ ﺎﺃ ﻲﺴﻔﻧ ﰲ  ﻊﻗﻮﻓ

                                                                     ((  1 ﺔﻠﺨﻨﻟﺍ ﻲﻫ  :  ﻝﺎﻗ   ﷲﺍ


                                     ความวา “ จากทานอิบนุอมัร   รายงานวา  ทานนบีได
                                                                               
                                                           ุ
                                     กลาววาแทจรงในบรรดาตนไมตางๆนั้นจะมีตนไมตนหนึ่งที่
                                                 ิ
                                       
                                                                            ิ
                                                   
                                                                                
                                     ใบของมันจะไมรวง และมันเปรียบเสมือนมุสลม ทานทั้งหลาย
                                     จงบอกฉันซวามันคือตนอะไร? ทานอิบนุอมัร   เลาตอวา
                                                                  
                                                                           ุ
                                                ิ
                                                                             ั
                                      ุ
                                     ทกคนจะคิดวามันคือตนไมทอยูในทะเลทราย อบดุลลอฮฺกลาว
                                                                                       
                                                             ี่
                                                                                       
                                     วา ฉนคิดในใจวามันคือตอนอินทผลัม จากนั้นพวกเขาจึงกลาว
                                         ั
                                                    ุ
                                           
                                          
                                     วา โอทานรอซูลลลลอฮฺจงบอกพวกเราเถอะวามันคือตนอะไร
                                     ทานนบีตอบวามันคือตนอินทผลัม”
                                      

                                                                                                     ิ
                                     หะดีษขางตนชี้ใหเห็นวาทานนบีไดตั้งคําถามเพื่อใหบรรดาซอฮาบะฮฺคดหา
                        ํ
                               ั้
                       คาตอบ ทงนี้เปนการกระตุนและฝกใหเกิดการวิเคราะหการสังเกตในสิ่งรอบตัวเพื่อใหเกิดความรู






                        อางแลว หนา 19
                       1
   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68   69