Page 21 - 026
P. 21
21
1.3.3. ทฤษฎีบทบาทของราล์ฟ ลินตัน (Ralph Linton’s Role Theory) อ้างถึงใน
์
พิทยา เพชรรักษ (2539) กล่าวไว้ว่า ต าแหน่งหรือสถานภาพเป็นผู้ก าหนดบทบาท เช่น บุคคล ที่มี
ต าแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องแสดงพฤติกรรมที่เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ประชาชน เป็นต้น ผู้ที่มีต าแหน่ง
จะ ปฏิบัติหน้าที่ได้สมบทบาทหรือไม่ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลาย ๆ อย่าง เช่น บุคลิกของผู้สวม
บทบาท ลักษณะของสังคม ตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมของสังคมนั้นด้วย
1.3.4. ทฤษฎีบทบาทของเนเดล (Nadel’s Role Theory) นักมานุษยวิทยา อ้าง
์
ถึงใน พิทยา เพชรรักษ (2539) กล่าวว่า บทบาท คือส่วนประกอบที่ส่งผลต่อพฤติกรรม 3 ลักษณะคือ
1.3.4.1 ส่วนประกอบที่ส่งเสริมบทบาท เช่น เป็นต ารวจ ต้องยิงปืนเก่ง
1.3.4.2 ส่วนประกอบที่มีผลส าคัญต่อบทบาทและขาดมิได้เช่น เป็นต ารวจต้องจับ
ผู้ร้าย
1.3.4.3 ส่วนประกอบที่เป็นไปตามกฎหมาย เช่น เป็นต ารวจ ต้องเป็นสมาชิกของ
โรงพัก เป็นต้น ถ้าก าหนดให้
P คือ บทบาท
b คือ ส่วนประกอบที่มีผลส าคัญต่อบทบาทและขาดมิได ้
c คือ ส่วนประกอบที่เป็นไปตามกฎหมาย
ดังนั้นจึงเขียนเป็นสมการบทบาทได้ว่า
P = a + b + c + … + n
จากสมการอธิบายได้ว่า บทบาทต้องประกอบด้วยส่วนประกอบหลาย ๆ ส่วนอย่าง
น้อย 3 ส่วนขึ้นไปจนถึง n ส่วน
1.3.5 . ทฤษฎีบทบาทของโฮมันน (Homann’s Role Theory) อ้างถึงใน พิทยา
์
์
เพชรรักษ (2539) กล่าวว่า บุคคลจะเปลี่ยนบทบาทไปตามต าแหน่งเสมอ เช่น ตอนกลางวันแสดง
บทบาทจับผู้ร้าย เพราะเป็นต ารวจ พอตอนเย็นต้องแสดงบทบาทดูแลเลี้ยงดูบุตร เพราะเป็นพ่อแม่
เป็นต้น
1.3.6. ทฤษฎีบทบาทของพาร์สัน (Parson’s Role Theory) อ้างถึงใน พิทยา
์
เพชรรักษ (2539) กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ในสังคม ท าให้มนุษย์ต้องเพิ่มบทบาทของตน
เช่น บุคคลที่มีเพื่อนมาก ก็ต้องแสดงบทบาทมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
1.3.7. ทฤษฎีบทบาทของกู๊ด (Good’s Role Theory) อ้างถึงใน พิทยา เพชรรักษ ์
(2539) กล่าวว่า บทบาท คือ แบบแผนของพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ของแต่ละบุคคล และ
บทบาทดังกล่าวควรเป็นไปตามข้อตกลงที่มีต่อสังคมนั้น ๆ
จากความหมายของบทบาท แนวความคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับบทบาท จึงสรุปได้ว่า
บทบาท หมายถึง พฤติกรรมหรือการกระท าของบุคคล ซึ่งอยู่ในฐานะหรือต าแหน่งหรือมีสถานภาพ