Page 243 - 022
P. 243
243
ั
ี
ี
ี
็
ี่
็
ุ
และสมนไพรค็อฏมย์ ( ) เปนต้น และส าหรบสตรทมฐานะมักใช้น ้าหอมเปนส่วนประกอบ
่
็
้
์
ุ
ึ
ด้วย (‘Ali, 1993: 4/622) นอกจากหวีซงเปนอปกรณส าคัญในการจัดเสนผมแล้ว ในรายงานพบว่า
ู
ี
เศาะหาบยาตในสมัยของท่านนบ รจักใช้กระจกเงาในการแต่งตัวอกด้วย (Malik Ibn Anas:
ี
ี
้
1673)
1
ี่
ั
ื
็
การใช้ผงแร่ในการทาทขอบตาหรอในภาษาอาหรบเรยกว่า อัลกุหล์ ( ) ก็เปนวิธการ
ี
ี
ี
เสรมสวยอกประการหนงทบรรดาเศาะหาบยาตในยุคสมัยของท่านนบ ใช้ แม้ว่าอัลกุหล์ใช้เพื่อ
ี
ิ
่
ี่
ี
ึ
2
ี
ิ
็
ประโยชนต่อสขภาพตา (Al-Nasa’i: 5113) แต่ก็ไม่อาจปฏเสธได้ว่าเปนการเพิ่มความสวยงามอก
ุ
์
ุ
ี
ี
ี
ี
ี
ประการหนง มรายงานจากอมม์ อะฏยะฮ์กล่าวว่า ในช่วงทสตรไว้ทกข์ต่อการเสยชวิตของสามนั้น
ี
ุ
ี่
ึ
่
ื
ี่
ไม่อนญาตให้พวกนางทาผงขอบตา ใช้น ้าหอม และสวมใส่เส้อผ้าทสวยงาม (Bukhari: 5341) ซง
ึ
่
ุ
ี
ิ
ี
ี
ี
ี
ี่
ี่
จากหะดษอมม์ อะฏยะฮ์น้สามารถเข้าใจได้ว่าในภาวะปกตมเศาะหาบยะฮ์ทใช้ผงแร่ทาทขอบตาเพื่อ
ุ
ความสวยงาม
ี
นอกจากน้พบรายงานจากท่านหญงอาอชะฮ์ทกล่าวถงการโภชนาการของสตรทไม่ท าให้
ิ
ิ
ี่
ี่
ึ
ี
็
ึ
ี
พวกนางเพิ่มน ้าหนักมากข้น (Al-Tabari, 1968: 2/611) ซงแสดงให้เหนว่าเศาะหาบยาตในยุคสมัย
่
ึ
ุ
ู
ี
ู
ี
ของท่านนบ ให้ความส าคัญในการดแลห่นตัวเองให้ดดสวยงามและไม่อ้วนจนเกินไป
ี
ุ
จากรายงานทกล่าวมาทั้งหมดสรปได้ว่าเศาะหาบยาตในยุคสมัยของท่านนบ มบทบาท
ี่
ี
ี
ส าคัญในการสบทอดวัฒนธรรมเสรมความงามอันเปนธรรมชาตอันบรสทธ์ ิของสตร พรอมกับ
ื
ิ
ิ
ี
ิ
ุ
็
้
ิ
ี
ุ
ิ
ั
ี
พัฒนาและปรบแต่งให้สอดคล้องกับบทบัญญัตอสลามอย่างสมดลภายใต้กรอบชะรอะฮ์ดังต่อไปน้
ื
1. การเสรมความงามหรอใช้เครองประดับทไม่ขัดกับค าสั่งห้ามของชะรอะฮ์อย่างชัดเจน
ี
ื่
ี่
ิ
3
ื
ี
ี่
2. ไม่มเจตนาทจะให้เหมอนสตรผู้ปฏเสธ (Abu Dawud: 4031)
ี
ิ
ื
ื่
ื
ื
็
ุ
ุ
3. ไม่ใช่เปนความงามหรอเครองประดับของบรษหรอให้เหมอนบรษ (Bukhari: 5885)
ุ
ุ
้
ิ
ี่
็
4. ไม่เปนการเปลยนแปลงในส่งทพระองค์ทรงสราง และไม่ผิดแผกจากความเปน
ี่
็
ธรรมชาต (Bukhari: 5931)
ิ
็
่
5. ไม่เปนการฟมเฟอย (Bukhari: 5975)
ุ
ื
6. ไม่เปนการเสยเวลาโดยใช่เหต (Al-Tirmidhi: 2417)
ุ
็
4
ี
1
ุ
7. ไม่เกิดอันตรายต่อร่างกายและสขภาพ (Ibn Majah: 2340)
1 อบ อุสามะฮ์วินจฉัยว่าเปนหะดษเมากูฟ ศอฮห (Malik Ibn Anas, 2003: 4/161)
็
ี
ี
ู
์
ิ
2 อัลอัลบานย์วินจฉัยว่าเปนหะดษหะสัน (Al-Albani, 1998b: 2/504)
็
ี
ิ
ี
3
็
ี
ี
์
ี
ิ
อัลอัลบานย์วินจฉัยว่าเปนหะดษหะสัน ศอฮห (Abu Dawud, 1424: 721).
4
็
ิ
ี
์
ี
ี
อัลอัลบานย์วินจฉัยว่าเปนหะดษศอฮห (Al-Tirmidhi, n.d.: 544)