Page 241 - 022
P. 241
241
้
้
ุ
ี
้
ุ
็
ู
ี
ุ
ู
ี่
กรอบไว้เพื่อให้ความปรารถนาดังกล่าวน้ไม่ฟงเฟอไรความสมดลและม่งส่แก่ชายผู้ทเปนค่ชวิตของ
พวกนาง (Qutub, 2003: 2512)
ี
ี่
ิ
ิ
ี
ี
ศาสนาอสลามส่งเสรมให้สตรทมสามแล้วให้ท าการเสรมความงามได้ ดังมรายงานจากท่าน
ี
ิ
ุ
หญงอาอชะฮ์เล่าว่า ภรรยาของอษมาน อบน มัศอนเปนคนชอบแต่งตัวโดยการทาสทมอและเท้า
ื
ิ
ุ
ิ
ิ
็
ี่
ี
ู
ี
ี่
่
ิ
ด้วยต้นเทยนและใช้น ้าหอม วันหนงนางเข้าไปหาท่านหญงอาอชะฮ์ในสภาพทไม่ได้แต่งตัวอะไร
ึ
ิ
เลยซงแตกต่างกับทเคยเปน ท่านหญงอาอชะฮ์จงได้ถามนางว่า “สามของนางอยูบานหรอไม” นาง
ี
ี่
ึ
ิ
ิ
่
็
้
่
่
ึ
ื
ึ
ื
็
่
ี
ิ
ิ
่
่
ตอบว่า “ถงเขาอยูบานก็เหมอนกับไมอยู” ท่านหญงอาอชะฮ์ถามอกว่า “ท าไมจงเปนเชนนั้น” นาง
่
่
้
ึ
ื่
่
ุ
ื่
ิ
ตอบว่า “อษมานไดสละในเรองทางโลกแลวและไมปรารถนาในเรองผูหญง” เมอท่านนบ
ี
ื่
้
้
้
ี
ื่
ุ
ิ
ี
ิ
ี
ั
กลับมาบ้านท่านหญงอาอชะฮ์ได้เล่าเรองน้ให้ท่านนบ ฟง ท่านนบ จงไปหาท่านอษมานพร ้
ึ
อมกับกล่าวว่า “โออษมาน คณไดศรทธาในสงทพวกเราไดศรทธาหรอไม?” อษมานตอบว่า
้
้
ั
ั
่
ิ่
ื
ุ
ุ
ุ
ี่
้
้
ั
ี
่
้
ึ
ฺ
ิ
ี
“แนนอน โอรสลของอลลอฮ” ท่านนบ กล่าวอกว่า “ถาอยางนั้น จงยดมั่นปฏบัตตามแบบอยาง
่
ิ
่
ู
ของฉน” (Ibn Hanbal: 24753)
1
ั
ู
จากการส ารวจดรายงานทางประวัตศาสตรพบว่าเศาะหาบยาตในสมัยของท่านนบ มี
์
ี
ี
ิ
ิ
ิ
ี่
การเสรมความงามด้วยเครองประดับชนดต่างๆ อย่างหลากหลาย ทั้งทท ามาจากทองค าและเงน ม ี
ื่
ิ
่
ั
รายงานว่าคร้งหนงท่านนบ ได้ออกไปเพื่อท าการละหมาดอด หลังจากละหมาดเสรจท่านนบ
ี
ี
ึ
็
ี
ุ
ี
ี
ี
ลกข้นอ่านคฎบะฮ์ แล้วท่านนบ ได้เดนไปยังแถวกล่มสตร ซงมบลาลเดนตามด้วย ท่านนบ
ิ
ึ
ิ
ี
ึ
ิ
ุ
ุ
่
ได้เทศนาธรรมให้แก่กล่มสตรและก าชับให้พวกนางบรจาคทาน พวกนางจงพากันถอดก าไลมอ
ิ
ุ
ื
ี
ึ
ุ
ิ
ู
้
สรอยคอ (Bukhari: 1431) และต้มห (Bukhari: 5883) ตลอดจนแหวนประเภทต่างๆ ออกมาบรจาค
ี
ให้แก่ท่านนบ โดยรวมไว้ในเส้อของบลาล (Bukhari: 5880) นอกจากน้มรายงานจากอัลกอสม
ื
ิ
ี
ี
ิ
ี่
ี
ี
ิ
ุ
ิ
ุ
็
อบน มหัมมัด กล่าวยืนยันว่าได้เหนท่านหญงอาอชะฮ์สวมใส่เส้อผ้าทมสและแหวนทอง (Ibn Hajar,
ิ
ื
2005a: 13/377)
นอกจากเครองประดับทกล่าวมาแล้ว ศาสนาอสลามยังส่งเสรมให้สตรใช้ต้นเทยนทาทมอ
ี
ื่
ื
ี
ี่
ิ
ี่
ิ
ี
และเล็บเพื่อความสวยงาม มรายงานว่าท่านนบ รงเกียจสตรทมอของนางไรร่องรอยสต้นเทยน
ี
ี
ี
ี่
ั
ี
ื
้
ี
ิ
ิ
(Al-Bayhaqi, 2003: 7/509) มรายงานจากอกรมะฮ์เล่าว่า ท่านหญงอาอชะฮ์และบรรดาภรรยาของ
ิ
ิ
ี
ท่านบ เคยทาสมอด้วยต้นเทยนในขณะทครองอหรอมอยู่ (Ibn Qudamah, 1997: 5/161) มี
ื
ี
ี
ิ
ี่
ิ
ุ
ี
ิ
รายงานอกว่า หลังจากกองทัพอสลามได้พิชตนครมักกะฮ์ได้ส าเรจแล้ว นางฮนด์ บนต์ อตบะฮ์ซง
่
ึ
ิ
็
ิ
ี
็
ี
เปนภรรยาของ อบู สฟยาน ได้เข้าไปหาท่านนบ เพื่อทจะให้การสัตยาบันต่อท่านนบ แต่
ุ
ี่
1
ชอัยบ์ อัลอัรนะวูตและคณะวินจฉัยว่าเปนหะดษศอฮห ลฆัยรฮ ( ) (Ibn Hanbal, 2001: 41/273) ดู
ิ
ุ
ี
ี
ิ
็
ิ
์
ุ
ิ
ี
ี
ู
ี่
ิ
เพ่มเตมในมุสนัด ของอบ ดาวูด หะดษเลขท 1369 และในมุศ็อนนฟของอับดลรอซาก หะดษเลขท 10375
ิ
ี่