Page 240 - 022
P. 240
240
ี่
ิ
ี่
1
ึ
2
ื่
โองการ การเสรมความงามหรอเครองประดับนั้นมทั้งทเกิดข้นในตัวของมันเอง และทน ามา
ื
ี
3
ี่
ี
ี
ื
ประดับจากภายนอก นอกจากน้อัลกุรอานใช้ค าว่าอัลซนะฮ์หรอความงามทั้งในความหมายทเปน
็
ิ
ี
ู
4
รปธรรมและนามธรรม อบน ตัยมยะฮ์กล่าวว่า ความงามของสตรมสองประเภท คอประเภทท ี่
ุ
ื
ี
ิ
ิ
ุ
ู
ิ
ี่
เปดเผยและทไม่เปดเผย ส่วนทเปดเผยนั้นบรรดาอลามาอ์มทัศนะทแตกต่างกัน อบน มัสอดกล่าวว่า
ิ
ุ
ี
ิ
ี่
ี่
ื
ี่
ึ
ิ
หมายถงเส้อผ้าเครองน่งห่มของสตร ในขณะทอบน อับบาสกล่าวว่า หมายถงส่งทอยู่บนใบหน้า
ี่
ื่
ี
ิ
ึ
ุ
ุ
ี
และสองมอของสตร เช่น ผงแร่ด าททาบรเวณขอบตาหรอแหวนทใส่ไว้ทน้วมอ เปนต้น (Ibn
ื
ื
ื
ิ
ิ
ี่
็
ี่
ี่
Taymiyah, 1983: 32) อัลรอซย์ ได้ให้ความหมายซนะฮ์ทปรากฏในอัลกุรอานสเราะฮ์อัลอะอ์รอฟ
ี่
ู
ี
ี
ี่
ื
โองการท 32ไว้สองประการ คอ 1) หมายถงเส้อผ้าทปกปดเอาเราะฮ์ 2) หมายถงส่งทท าให้เกิด
ิ
ื
ี่
ี่
ึ
ิ
ึ
ู
่
ึ
ิ
ึ
ความสวยงามทกชนด ซงรวมถงการท าให้ร่างกายดงามโดยวิธการต่างๆ การสวมใส่รองเท้าและ
ุ
ี
ุ
ื่
เครองประดับต่างๆ (Al-Razi, 1981: 14/67) กล่าวโดยสรปแล้วการเสรมความงามของสตร ี
ิ
ี
ื
ื
ื
์
ุ
ิ
ครอบคลมใน 3 เรองดังน้ คอ 1) เส้อผ้าอาภรณของพวกนาง 2) การเสรมสวยตกแต่งเรอนร่างให้
ื่
ี่
สวยงามโดยใช้วัสดต่างๆ เช่น การใช้เครองส าอางบนใบหน้า การใส่แร่ผงด าทขอบตา การย้อมสผม
ุ
ี
ื่
ื่
ี่
็
ด้วยต้นเทยน และการใช้ต้นเทยนทาทมอและเท้า เปนต้น 3) เครองประดับอนๆ เช่น สรอยคอ ก าไล
้
ี
ื
ื่
ี
็
มอ ต้มห แหวน เปนต้น
ุ
ู
ื
ุ
ิ
็
ี่
ี
ุ
ิ
ิ
โดยทั่วไปแล้วการเสรมความงามทกชนดเปนทอนมัตในอสลามเว้นแต่มหลักฐานสั่งห้าม
ิ
ิ
ไว้อย่างชัดเจน (Al-Razi, 1981: 14/67) และอสลามเปนศาสนาทสอดคล้องกับธรรมชาตของมนษย์
็
ิ
ุ
ี่
ี
ิ
ิ
ิ
ุ
ิ
ี
ุ
ี่
ุ
ไม่มบทบัญญัตใดของอสลามทขัดกับธรรมชาตอันบรสทธ์ ิของมนษย์ และธรรมชาตของสตรทกคน
ิ
ึ
ี
มความหลงใหลและปรารถนาในความสวยงาม ด้วยเหตน้อสลามจงอนญาตให้สตรเสรมความงาม
ิ
ุ
ี
ิ
ุ
ี
ิ
หรอใช้เครองประดับได้เพื่อสนองตอบธรรมชาตอันบรสทธ์ ิของพวกนาง แม้ว่าเครองประดับและ
ิ
ื่
ุ
ื่
ื
ี
ื
ี
ความงามมความแตกต่างกันในแต่ละยุคสมัย แต่มจดม่งหมายเดยวกันคอปรารถนาทจะให้เกิดความ
ี่
ุ
ี
ุ
็
ิ
สวยงาม ดังนั้นอสลามจงไม่ขัดขวางความปรารถนาอันเปนธรรมชาตของสตร แต่อสลามได้วาง
ิ
ี
ิ
ึ
1
ิ
ซงแต่ละโองการสอความหมายทแตกต่างกัน ในบางโองการหมายถงส่งทสวยงามเพรศแรว ดังปรากฏในสเราะฮ์
้
ี่
ื่
ึ
ี่
ู
ึ
ิ
่
ึ
ู
ี่
ี่
ท 18 อัลกะฮฟโองการท 7 และ 46 และในบางโองการหมายถงส่งทดงดดสายตาผู้คนให้อยากด ดังเช่นในสู
ู
์
ิ
ี่
ึ
ฺ
เราะฮ์ท 15 อัลฮจร โองการท 16 และสเราะฮ์ท 50 ก็อฟ โองการท 6 ในขณะทบางโองการหมายถงส่งทท าให้ดด ี
ี่
์
ี่
ึ
ู
ี่
ู
ิ
ิ
ี่
ี่
ี่
ี
ู
ี่
ี่
ี่
้
ี่
ู
ื
โดยการซ่อนเรนหรอปดบังในส่วนทไม่ดไว้ ดังปรากฏในสเราะฮ์ท 6 อัลอันอาม โองการท 122 สเราะฮ์ท 8 อัล
ิ
อันฟาล โองการท 48 และสเราะฮ์ท 9 โองการท 37
ี่
ี่
ี่
ู
2 ดอัลกุรอานสเราะฮ์ท 10 ยูนส โองการท 24 ; สเราะฮ์ท 37 อัลศ็อฟฟาต โองการท 7
ี่
ุ
ี่
ู
ี่
ู
ี่
ู
3
ู
ี่
ู
ู
ี่
ู
ี่
ดอัลกุรอานสเราะฮ์ท 7 อัลอะอ์รอฟ โองการท 31; สเราะฮ์ท 24 อัลนร โองการท 31
ี่
4 ดอัลกุรอานสเราะฮ์ท 50 ก็อฟ โองการท 6; สูเราะฮ์ท 48 อัลฟตห โองการท 12 ; สเราะฮ์ท 49 อัลหญรอต
ี่
ุ
๊
ี่
ุ
ี่
ู
ี่
ู
ั
ี่
ู
์
โองการท 7
ี่