Page 222 - 022
P. 222
222
” ความว่า ห้ามสตรน าละหมาดให้แก่บรษ... (Ibn Majah: 1081) ส าหรบหะดษนาง
1
ุ
ี
ุ
ี
ั
ุ
ิ
ุ
็
อมม์ วะรอเกาะฮ์นั้น อบน กุดามะฮ์เหนว่า อนญาตให้นางเปนอมามน าละหมาดเฉพาะสตรเท่านั้น
ุ
ี
ิ
็
์
ี
ี
ตามรายงานของอัลดาร กุฏนย์ ( ) อบน กุดามะฮ์กล่าวอกว่า หากสามารถพิสจน์ได้ว่านางได้
ุ
ู
ิ
ุ
ุ
ิ
ั
ิ
็
น าละหมาดให้แก่บรษจรงก็น่าจะเปนบทบัญญัตเฉพาะส าหรบนางเท่านั้น (Ibn Qudamah, 1997:
็
ุ
ี
ุ
3/33-34) อับดลกะรม ซัยดาน ได้สรปเปนทัศนะทมน ้าหนักมากกว่าว่า อนญาตให้สตรเปน อมาม
ี
ี่
็
ี
ิ
ุ
ั
ุ
น าละหมาดให้แก่บรษได้พรอมกับครอบครวของนางในบ้านของนาง หากนางมความเหมาะสมท ี่
ี
้
ุ
้
ุ
็
ุ
ี
จะเปนอมามมากกว่าบรษ อันเนองจากนางเปนผู้อ่านอัลกุรอานได้ดกว่าและมความรเกี่ยวกับ
ู
ี
ิ
็
ื่
ุ
ุ
ุ
ุ
ี
ิ
ุ
็
ิ
บทบัญญัตมากกว่าบรษ แต่อย่างไรก็ตามสตรไม่อนญาตให้เปนอมามน าละหมาดให้แก่บรษ
็
ิ
ในมัสญดได้ ซงเปนทัศนะของนักวิชาการส่วนใหญ่ (Zaydan, 1993: 1/252)
่
ึ
4.2.3 การมีสวนรวมในกระบวนการสรางครอบครว
่
ั
้
่
ุ
ุ
ี่
ี่
ื
ครอบครวเปนหน่วยทส าคัญทสดของสังคม สังคมจะเจรญร่งเรอง มั่นคงและผาสกได้
ั
ุ
ิ
็
ิ
็
็
ึ
จะต้องอาศัยครอบครวเปนฐาน ความส าเรจของแต่ละครอบครวข้นอยู่กับสมาชกของครอบครวเปน
ั
ั
็
ั
็
ุ
ส าคัญ บทบาทในการขับเคลอนครอบครวให้ประสบความส าเรจนั้นไม่ใช่เปนภารกิจของบรษหรอ
็
ุ
ั
ื
ื่
ี
สามแต่เพียงฝายเดยว หากแต่สตรหรอภรรยาก็มส่วนส าคัญอย่างยิ่งยวดในกระบวนการสราง
ื
ี
้
ี
่
ี
ี
ี
ั
ี
ครอบครวให้ประสบกับความส าเรจ ในสมัยของท่านนบ บรรดาเศาะหาบยาตก็มส่วนร่วมใน
็
กระบวนการสรางครอบครวซงสรปได้ดังน้
ึ
ั
ี
่
ุ
้
1) การเลือกคูครอง
่
ี่
ู
ิ
ี
ี
ิ
ิ
ื
ศาสนาอสลามให้สทธเสรภาพแก่สตรอย่างเต็มทในการเลอกค่ครองของตนเอง การ
ื่
ั
แต่งงานไม่อาจเกิดข้นได้หากไม่ได้รบการยินยอมจากพวกนาง ท่านนบ ได้ก าชับเรองน้ให้แก่
ึ
ี
ี
ี
ี
บรรดาผู้ปกครองของสตรโดยมวจนะความว่า
่
้
ั
้
่
้
่
่
ั่
้
ิ
้
่
“พวกเจาอยาไดแตงงานใหแกหญงมายจนกวาไดรบค าสงจากนาง และเจาอยาได ้
่
้
่
ิ
่
แตงงานใหแกหญงโสดจนกวาจะไดรบอนุญาตจากนาง” (Bukhari: 5136)
่
้
ั
ี
ิ
ิ
ในทางปฏบัตบรรดาเศาะหาบยาตได้แสดงบทบาทในการปกปองสทธในการเลอกค่ครอง
้
ิ
ู
ิ
ื
ิ
ดังมรายงานว่านางคันสาอ์ บนต์ คซาม ถกบดาของนางจับให้แต่งงานแบบคลมถงชนกับผู้ชายทนาง
ุ
ี่
ิ
ุ
ิ
ี
ู
ี
ี
ิ
ิ
้
ึ
่
ไม่ชอบซงขณะนั้นนางเปนหญงม่าย นางจงเข้าไปฟองต่อท่านนบ และท่านนบ ได้ยกเลกการ
ึ
็
ี
ี
ิ
ี
็
ิ
ี
แต่งงานนั้น (Bukhari: 5138) ข้อปฏบัตน้เปนบรรทัดฐานของบรรดาสตรในเวลาต่อมา ดังมหะดษ
ซงรายงานจากอัลกอสมเล่าว่า มลกสาวของครอบครวญะอ์ฟรคนหนงเกรงว่าบดาของนางจะจับนาง
ึ
ิ
่
ู
ี
ึ
่
ั
ิ
ั
1
ี
ิ
็
ี
ี
อัลอัลบานย์วินจฉัยว่า เปนหะดษฎออฟ (Al-Albani, 1997a: 84)