Page 219 - 022
P. 219

219








                                                                    ี่
                                                                                   ื่
                                                             ี
                                                                                              ิ
                                                                                           ิ
                              แม้ว่านักวิชาการในแต่ละมัซฮับมทัศนะทแตกต่างกันในเรองการออ์ตกาฟของสตร       ี
                                                                                                 ี่
                                             ็
                       ในมัสญด ซงบางทัศนะเหนว่าสามารถกระท าได้ไม่ว่าจะเปนมัสญดใดก็ตาม ในขณะทบางทัศนะ
                                 ึ
                                                                         ็
                                                                               ิ
                              ิ
                                 ่
                                          ิ
                                    ็
                        ี
                       ตความว่าควรเปนมัสญดในบ้านของพวกนางเอง  แต่อย่างไรก็ตามปรากฏหลักฐานอย่างชัดเจนว่าม  ี
                                                               1
                              ี
                                                                   ิ
                                                                         ุ
                                                                                ื
                                         ิ
                                           ิ
                                                        ี
                       เศาะหาบยาตร่วมท าออ์ตกาฟกับท่านนบ  ในช่วงสบวันสดของเดอนรอมฎอน และได้กระท าข้น
                                                                                                        ึ
                                              ็
                                                    ิ
                                                                                        ิ
                                                                                          ิ
                             ิ
                                                                                                     ิ
                                           ึ
                                           ่
                                                                     ี
                       ในมัสญดอันนะบะวีย์ ซงเปนมัสญดกลางของนครมะดนะฮ์ในสมัยนั้น การออ์ตกาฟในช่วงสบวัน
                       สดท้ายของเดอนรอมฎอนนอกจากได้เจรญรอยตามสนนะฮ์ของท่านนบ   แล้วยังเปนการอมา
                                                                                                 ็
                                  ื
                        ุ
                                                                                                       ิ
                                                                     ุ
                                                                                     ี
                                                          ิ
                                     ื
                       เราะฮ์ (   ) หรอฟนฟูมัสญดอกด้วย
                                               ิ
                                                  ี
                                        ื้
                              4) การเปนอิมามนาละหมาด
                                     ็

                              แม้ว่าบทบัญญัตเกี่ยวการเปนอมามน าละหมาดของสตรเปนทถกเถยงกันอย่างหลากหลาย
                                                                                  ี่
                                                                                      ี
                                                     ็
                                            ิ
                                                                               ็
                                                                             ี
                                                        ิ
                                                      2
                       ในบรรดานักวิชาการในแต่ละมัซฮับ  แต่ในทางประวัตศาสตรพบหลักฐานว่ามเศาะหาบยาตบาง
                                                                            ์
                                                                                           ี
                                                                                                   ี
                                                                      ิ
                                                                                                 ิ
                            ็
                                                      ี
                                                                          ื่
                       ท่านเปนอมามน าละหมาดให้แก่สตรด้วยกัน ผู้รายงานในเรองน้ประกอบด้วย ท่านหญงอาอชะฮ์
                                                                              ี
                                                                                                      ิ
                               ิ
                                                                                     ี
                       ท่านหญงอมม์ สะละมะฮ์, อะฏออ์ (    ), อัลเษารย์ (   ), อัลเอาซาอย์ (     ), อัลชาฟอย์
                                ุ
                                                                                                       ิ
                                                                                                        ี
                              ิ
                                                                  ี
                                                  ์
                       (      ), อสหาก และ อบู เษาร (    )  (Zaydan, 1993: 1/253)  พบรายงานมากมายว่าท่านหญง
                                 ิ
                                                                                                         ิ
                       อาอชะฮ์เคยทั้งอะซาน อกอมะฮ์และเคยเปนอมามน าละหมาดทั้งฟรฎและสนัตระหว่างสตรด้วยกัน
                          ิ
                                                         ็
                                                                                                   ี
                                                                              ั
                                                            ิ
                                                                                      ุ
                                           ิ
                                                                                 ู
                                                                                             ิ
                       มรายงานจากอะฏออ์ซงรบรายงานจากท่านหญงอาอชะฮ์เล่าว่านางเคยทั้งอะซาน อกอมะฮ์และเคย
                                                              ิ
                        ี
                                                                   ิ
                                            ั
                                          ่
                                          ึ
                           ิ
                                                              ี่
                                                   ี
                        ็
                       เปนอมามน าละหมาดระหว่างสตรด้วยกันโดยทนางยืนอยู่กลางแถวแรก (Al-Bayhaqi, 2003: 1/600)
                                                                                          ี
                                                                     ี
                                                                              ่
                                                                              ึ
                                                 ุ
                                                                        ี
                       ในต ารา Al-Musannif ของอับดลรอซซาก อัลศ็อนอานย์ มบทหนงว่าด้วย “สตรจะต้องอะซานและ
                                        ึ
                                        ่
                        ิ
                                                                              3
                                 ื
                       อกอมะฮ์หรอไม่” ซงในบทน้มหะดษรายงานจากฏอวูส (           )  กล่าวว่า “เวลาจะละหมาดทาน
                                                     ี
                                                 ี
                                                                                                       ่
                                                ี
                              ิ
                          ิ
                                  ์
                                                      ์
                       หญงอาอชะฮเคยอะซานและอกอมะฮ” (‘Abd  al-Razzaq,  1983:  3/126) และรายงานจากนางรอย
                                                ิ
                                                                                                       ็

                       1  ดรายละเอยดเพ่มเตมใน Ibn Qudamah 1997: 4/464
                                      ิ
                               ี
                                   ิ
                         ู
                       2
                                                                         ี
                                                    ุ
                                                                                                      ี
                                  ุ
                        นักวิชาการกล่มมาลกิยะฮ์เหนว่า ไม่อนญาตให้สตรน าละหมาดสตรด้วยกันได้ ส่วนนักวิชาการกล่มหะนะฟยะฮ์
                                            ็
                                                                                               ุ
                                      ิ
                                                             ี
                                                                                                       ุ
                                                           ี่
                                                                                ็
                                                  ุ
                          ็
                        เหนว่ามักรฮ (    ) แต่ได้ผลบญ ในขณะทอัลชะอ์บย์ และกอตาดะฮ์เหนว่า อนญาตเฉพาะละหมาดสนัต
                                ู
                                                                  ี
                                                                                      ุ
                                                                                                      ิ
                                                                            ี
                        เท่านั้น กล่มซอฮรยะฮ์ (  ) เหนว่าอนญาตให้สตรน าละหมาดสตรได้ ส่วนกล่มชาฟอยะฮ์ และหะนาบละฮ์
                                ุ
                                    ิ
                                     ี
                                                 ็
                                                                                    ุ
                                                                                        ิ
                                                                                          ี
                                                               ี
                                                      ุ
                                                              ี
                               ุ
                                                                   ็
                                                    ี
                        เหนว่าอนญาตให้สตรน าละหมาดสตรด้วยกันได้ อกทั้งเปนส่งทดทจะให้พวกนางละหมาดญะมาอะฮ์ระหว่าง
                                                                          ี่
                                                                         ี
                                        ี
                                                                      ิ
                          ็
                                                                        ี่
                                               ี
                                        ู
                        พวกนางด้วยกันเอง (ดรายละเอยดเพ่มเตมใน Zaydan, 1993: 1/253-254; Al-Nawawi, n.d.: 4/94-95)
                                                     ิ
                                                   ิ
                       3  ชอเต็มคอ ฏอวูส อบน กัยสาน อัลยะมานย์ (            ) บางท่านเหนว่าชอจรงของท่านคอ ซก
                         ื่
                                                                                                      ื
                                                       ี
                                                                                          ื่
                              ื
                                                                                     ็
                                                                                             ิ
                                                                                                        ิ
                                      ิ
                                         ุ
                                              ็
                        วาน (    ) ส่วนฏอวูสนั้นเปนนามแฝง อบน หบบานกล่าวว่า ฏอวูสเปนผู้เคร่งครดศาสนาแห่งชาวเยเมน และ
                                                                                     ั
                                                                            ็
                                                           ิ
                                                       ิ
                                                          ุ
                                                                                                    ุ
                        เปนแกนน าตาบอนคนหนง ซงเคยท าพิธฮัจญ์ถง 40 คร้ง เสยชวิตในป ฮ.ศ. ท 101 หรอ 106 ส่วนอบน มะอน
                                                                                                        ี
                         ็
                                     ี
                                    ิ
                                                           ึ
                                                                 ั
                                                      ี
                                                                                        ื
                                                                            ี
                                                                                  ี่
                                                                    ี
                                                                      ี
                                           ึ
                                              ึ
                                                                                                  ิ
                                           ่
                                              ่
                                                    ิ
                             ู
                        และอบ ซัรอะฮ์กล่าวว่า ฏอวูสเปนคนษเกาะฮ์ ( ) (Ibn Hajar, 1995: 2/235)
                                               ็
   214   215   216   217   218   219   220   221   222   223   224