Page 221 - 022
P. 221

221








                                                                     ิ
                                                                  ็
                           ี
                             ุ
                                 ิ
                       นางมมอัซซนของนางด้วย  และนางได้ท าหน้าทเปนอมามน าละหมาดให้แก่ผู้คนในหมู่บ้านของ
                                              1
                                                                ี่
                            ื่
                       นางเรอยมาจนกระทั่งนางถกลอบสังหารโดยทาสและทาสของนางในสมัยการปกครองของเคาะ
                                              ู
                                                                         ี
                        ี
                                                                         2
                                    ุ
                             ุ
                                 ิ
                       ลฟะฮ์อมัร อบน อัลค็อฏฏอบ... (Ibn Sa‘d, 1990: 8/334-335)   ค าว่า “ ” ในประโยค “   ”
                                                                                                         ึ
                       ในหะดษบทน้หมายถงผู้คนซงรวมถงทั้งชายและหญงด้วย อกทั้งค าว่า “              ” หมายถง
                                                      ึ
                                                                    ิ
                                         ึ
                                   ี
                                                ึ
                             ี
                                                ่
                                                                          ี
                                      ็
                             ุ
                                    ี่
                                 ิ
                           ี
                       นางมมอัซซนทเปนผู้ชาย ซงแสดงให้เหนว่า กล่มทมาละหมาดร่วมกับนางอมม์ วะรอเกาะฮ์นั้น
                                                                ุ
                                              ่
                                                          ็
                                               ึ
                                                                                         ุ
                                                                   ี่
                                                          ี่
                       ไม่ใช่เฉพาะสตรเท่านั้น ส่วนค าว่า “ ” ทพบอยู่ในงานเขยนในยุคสมัยของท่านนบ  มักหมายถง
                                                                       ี
                                    ี
                                                                                                         ึ
                                                                                            ี
                                                                                     ิ
                                                                                                ิ
                                                                  ี่
                                                                                          ี
                       เผ่าหรอหมู่บ้าน ดังเช่นหะดษบทหนงทกล่าวถงทอยู่อาศัยของท่านหญงศอฟยะฮ์ บนต์ หยัยว่า
                                                                                                     ุ
                                                       ึ
                                                       ่
                                                                ึ
                                               ี
                                                          ี่
                            ื
                                                                ึ
                                                                                                ุ
                                                                                                        ิ
                       “                                ” หมายถง บ้านของนางอยู่ในเขตหมู่บ้านของอสามะฮ์ อบ
                       น ซัยด์ (Ibn Hanbal 2001: 44/433) นั่นหมายความว่าผู้คนในหมู่บ้านของนาง ไม่ได้หมายความว่า
                        ุ
                                             ื
                       เฉพาะคนในครอบครวหรอคนในบ้านของนางเท่านั้น  และเข้าใจว่าค าสั่งของท่านนบ  ให้นาง
                                         ั
                                                                                                ี
                        ุ
                                                                                                ุ
                                           ิ
                                                                                               ี
                                                                                                    ิ
                       อมม์ วะรอเกาะฮ์เปนอมามน าละหมาดนั้นน่าจะเปนการละหมาดฟรฎ เพราะว่ามมอัซซนด้วย
                                                                   ็
                                        ็
                                                                                  ั
                                                                                     ู
                       การอะซานนั้นเกิดข้นเฉพาะในละหมาดฟรฎเท่านั้น และไม่มในละหมาดสนัต
                                                          ั
                                                                          ี
                                                                                     ุ
                                       ึ
                                                            ู
                                                                ี
                                                                      ็
                                                                                                    ิ
                                                                                                ็
                              จากหะดษข้างต้นน้นักวิชาการบางท่านมความเหนว่าในบางกรณสตรสามารถเปนอมามน า
                                                                                        ี
                                              ี
                                                                                    ี
                                     ี
                                                   ่
                                                      ็
                                                   ึ
                       ละหมาดให้แก่ชายได้ กอตาดะฮ์ซงเปนตาบอนทมชอเสยงท่านหนงกล่าวว่า หากผู้ชายไม่สามารถ
                                                                 ี
                                                                ี่
                                                                   ื่
                                                                               ึ
                                                                      ี
                                                                               ่
                                                            ิ
                                                             ี
                                                         ิ
                                                                               ี่
                       อ่านอัลกุรอานได้ ก็สามารถให้สตรเปนอมามน าละหมาดได้ โดยทนางยืนน าละหมาดและอ่านอัล-
                                                    ี
                                                      ็
                                                                                            ี
                                                                                 ิ
                       กุรอานอยู่แถวหลังจากผู้ชาย... (‘Abd  al-Razzaq,  1983:  3/141) อบน อัลเญาซย์ กล่าวว่า สตร ี
                                                                                    ุ
                       สามารถเปนอมามน าละหมาดให้แก่ชายได้ในกรณละหมาดตะรอวีห (          ) เท่านั้น ทั้งน้หากนาง
                                                                                                  ี
                                                                 ี
                                                                                ์
                               ็
                                  ิ
                                                                               ิ
                                                 ี
                                             ี่
                                                                                          ี
                                                                                             ็
                                                                                  ุ
                                                                                                        ี
                       ท่องจ าอัลกุรอานในขณะทไม่มผู้ชายคนใดท่องจ าอัลกุรอาน และอบน อัลเญาซย์เหนว่าหากสตรม ี
                                                                ี
                                                     ั
                                       ึ
                                     ื่
                       การรวมตัวกันเมอถงเวลาละหมาดฟรฎเปนการดทพวกนางจะละหมาดญะมาอะฮ์ด้วยกันเองโดยม         ี
                                                                 ี่
                                                         ็
                                                        ู
                       อมามในหมู่พวกนางน าละหมาดอยู่กลางแถวแรกของพวกนาง (Ibn Al-Jawzi, 1988: 55) ส่วนอบน  ุ
                        ิ
                                                                                                       ิ
                                                                                               ิ
                                ็
                       กุดามะฮ์ เหนแย้งว่า สตรไม่สามารถเปนอมามน าละหมาดให้แก่ผู้ชายในกรณใดๆ ทั้งส้น โดยยึดหะ
                                                         ิ
                                                                                       ี
                                           ี
                                                      ็
                           ี่
                                                        ฺ
                        ี
                                                                                        ิ
                                            ิ
                                                   ุ
                       ดษทรายงานโดยญาบร อบน อับดลลอฮ ซงได้ยินท่านนบ  กล่าวบนแท่นมนบัรว่า “
                                                          ่
                                                          ึ
                                               ุ
                                         ิ
                                                                       ี

                       1
                        ในตัวบทภาษาอาหรับใช้ส านวนว่า “      ”
                       2
                        หะดษในความหมายเดยวกันน้มอยู่ในสนัน อบ ดาวูด บทว่าด้วย การเปนอมามละหมาดของสตร หะดษเลขท  ี่
                                                                                                ี
                                                                                                    ี
                                                ี
                           ี
                                                           ี
                                         ี
                                               ี
                                                                             ็
                                                      ุ
                                                                                ิ
                                   ึ
                                                              ี
                                   ่
                                              ็
                                            ี
                                                                                                  ี
                                                         ็
                                                                                                     ี
                        591 และ 592 ซงอัลอัลบานย์เหนว่า ทั้งสองเปนหะดษหะสัน (Al-Albani, 1998b: 1/176-177) และหะดษเดยวกัน
                        น้มอยู่ในมุสนัด ของอะหมัด อบน หันบัล หะดษเลขท 27282 และ 27283 แต่เปนสายรายงานทฏออฟ (  )
                                                 ุ
                                          ์
                                              ิ
                                                          ี
                                                                                                 ี
                          ี
                                                                                              ี่
                         ี
                                                                                  ็
                                                                ี่
                                                                                                   ี่
                                                                                                    ู
                                                                                                    ้
                                                                                      ึ
                             ี
                                                                            ุ
                                                                                      ่
                                                                                    ฺ
                                                                                ุ
                        เพราะมอับดลเราะหมาน อบน ค็อลลาด (   ) และอัลวะลด อบน อับดลลอฮ ซงทั้งสองไม่เปนทรจัก (Ibn
                                                                                                ็
                                            ิ
                                              ุ
                                       ์
                                 ุ
                                                                         ิ
                                                                      ี
                        Hanbal, 2001: 45/253-255)
   216   217   218   219   220   221   222   223   224   225   226