Page 59 - 021
P. 59
59
ุ
้
ั
็
พัฒนา EQ ต้องพัฒนาตั้งแต่เด็ก และพัฒนาไปพรอมกันทกด้าน เปนองค์รวม ผู้สอนจะต้องยอมรบ
้
ี
ึ
ู
ั
ู
้
ี
ู
ั
ึ
้
ั
ื่
ั
ี
และรบรความรสกของผู้เรยนก่อน ต้องยอมรบและรบฟงความรสกของผู้เรยน ให้ผู้เรยนได้เล่าเรอง
ี่
ททําให้เขาโกรธ ผู้สอนควรจะมองในสิ่งที่ดีของผู้เรียน แสดงความรู้สึกชื่นชมให้ผู้เรียนรู้ว่าเขามี
ี
ุ
็
ี
ส่วนด จะทําให้ผู้เรยนมความเชอมั่นในตนเอง รว่าตนเองเปนทรกและมคณค่า ผู้เรยนจะเกิดทัศนคต ิ
ั
ี่
ี
ู
้
ี
ื่
ี
ทดต่อตนเองการพัฒนาการเห็นคุณค่าของตนเอง (Self Esteem) การเปลี่ยนแปลงนิสัย ทัศนคติ
ี
ี่
ี
ี
บคลกภาพ ความสามารถ รวมทั้งวิธการดําเนนชวิตของผู้เรยน จะเปนไปง่ายข้ ึน ถ้าการ
ิ
ี
ิ
ุ
็
ึ
ี่
ิ
้
ี
เปลยนแปลงนั้นเร่มต้นทสรางภาพพจน์ทางบวก การฝกให้ผู้เรยนใช้คําพูดด้านบวกกับตัวเองหรือ
ี่
ื่
็
ี่
็
็
ี
ี
พูดดกับตัวเอง เช่น ผมเปนคน เปนคนเก่ง เปนคนกล้าหาญ เปนคนทมความเชอมั่นในตนเอง เปน
็
็
ื
ั
ี่
คนน่ารก เปนคนทเพื่อนๆรก เปนคนทช่วยเหลอคนอน และการได้ฟงคําพูดด้านบวกจากจากคน
ั
็
ื่
็
ั
ี่
รอบข้าง เช่น จากคนในครอบครว เพื่อนๆ ผู้สอน วิทยุ หนังสือดี คํากลอน จะทําให้ผู้เรียนมีการ
ั
ู
้
ึ
็
ี่
ิ
ื
ี
ี่
ี
พัฒนาร่างกาย จตใจ และความรสกทด นอกจากน้คําพูดททําให้เหนภาพหรอการเกิดจนตนาการ
ิ
ิ
ี่
ี่
ิ
จะเปนคําพูดทมอทธพลทยิ่งใหญ่ต่อจิตใจมนุษย์ ดังคํากล่าวของไอสไตน์ที่ว่า จิตนาการมีคุณค่ากว่า
็
ี
ู
ี่
ความรมากมายนัก จนตนาการของคนเรามความสัมพันธเปนอย่างยิ่งกับการเปลยนแปลงภาพพจน์
ี
์
ิ
็
้
ี่
ี
์
ี
ตัวเอง นักวิทยาศาสตรประมาณว่า ในช่วงชวิตของ 6 ปแรก คนเราจะมจนตนาการสงทสด ผู้สอน
ุ
ี
ิ
ู
จะต้องฝกให้ผู้เรยนได้มจนตนาการให้มากทสดในช่วงน้ ให้ผู้เรยนฝกออกกําลังสมองด้วยการ
ี
ี
ี
ึ
ี่
ิ
ี
ึ
ุ
ิ
ั
ิ
จนตนาการให้มากพอกับการออกกําลังกาย ในแต่ละวันยิ่งฝกให้ผู้เรยนได้จนตนาการบ่อยคร้งมาก
ึ
ี
ึ
ข้น ความสามารถของผู้เรยนในด้านจนตนาการจะสงขึ้นการพัฒนาด้านปัญญา ปัญญาต้องเกิดจาก
ิ
ู
ี
ความร ความเข้าใจ ทพัฒนาข้นในตัวผู้เรยนเองผู้เรยนเปนผู้มบทบาทสําคัญในฐานะเปนผู้สราง
ี
้
็
ี่
็
ึ
ี
ู
ี
้
ปญญาให้เกิดแก่ตน จงต้องเปนผู้มส่วนร่วม และเปนผู้ทได้ลงมอกระทํามากที่สุด ผู้เรียนต้องเป็น
ื
ั
ึ
็
็
ี
ี่
ั
ิ
ิ
ื
ิ
้
ู
อสระในการใช้ความคดการซักถาม โต้ตอบ สบเสาะค้นหาความจรงต่างๆ ให้ได้รบความร ความ
้
ู
้
เข้าใจในตน และต้องให้แสวงหาความรอย่างอสระเปาหมายความสามารถในการคดทต้องให้
ี่
ิ
ิ
เกิดข้นในผู้เรยน คอ การคดไตร่ตรอง (Reflective Thinking) การคิดสร้างสรรค์ (Creative
ิ
ี
ื
ึ
ี
Thinking) และการคดอย่างมวิจารณญาณ (Critical Thinking) หากผู้สอนสามารถพัฒนาการคดทั้ง 3
ิ
ิ
ู
้
ี
ิ
ึ
ด้านดังกล่าว ให้เกิดข้นในตัวผู้เรยน ก็จะนําไปส่การเกิดโครงสรางกระบวนการคด (Metacognitive
ุ
ี
์
ี
Thinking) ของผู้เรยน ทําให้ผู้เรยนมยุทธศาสตรการคดของตนเอง สามารถกํากับและควบคม
ี
ิ
ิ
ั
ิ
กระบวนการคดของตนเองในการพัฒนาด้านปญญา จะต้องม่งปลกฝงและพัฒนาการคดของผู้เรยน
ั
ุ
ู
ี