Page 57 - 021
P. 57
57
้
ื่
ี่
ื
ความปรารถนาทจะสอนให้เกิดข้น สรางความเชอมั่นในตนเองวิธการสอความหมายหรอวิธการ
ี
ื่
ึ
ี
ั
ี
ุ
ื่
ี
ถ่ายทอดความร เตรยมเรองทจะสอนเช่น ในการเตรยมการสอนแต่ละคร้งจะต้องตั้งจดประสงค์ว่า
ี่
ู
้
ื
ั
ี
ื
ี
ในการสอนคร้งน้จะให้ผู้เรยนทําอะไรบ้างแล้วก็จัดเน้อหากิจกรรมหรอวิธการต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เรียน
ี
กระทําได้ตามทได้ตั้งความม่งหมายไว้ และระหว่างททําการสอนจะต้องมจตรวิทยาสรางบรรยากาศ
ี่
ุ
ี่
ิ
้
ี
ื
ิ
็
ิ
ี
ี่
ทเอ้ออํานวยในการเรยนการสอนมความเปนประชาธปไตย คอเปดโอกาสให้ผู้เรยนแสดงความ
ี
ี
ื
คดเหน ยอมรบฟงความคดเหนของผู้เรยน ครต้องมีความสนใจรอบ ๆ ตัว กระตุ้นให้ผู้เรียนมีความ
ั
ิ
ั
็
ี
ู
็
ิ
ี
ี่
ี
้
้
พรอมทจะเรยนก่อน มแรงจงใจหรอเสรมสรางแรงจงใจ มการถามเพื่อความเข้าใจ มการฝกปฏบัต ิ
ิ
ี
ื
ู
ู
ิ
ี
ึ
มระเบยบวินัย ครต้องไม่ลงโทษเด็กอย่างโง่เขลา เช่น ไม่ลงโทษก่อน ได้ทราบความผิดที่แน่นอน
ู
ี
ี
ิ
ี่
ิ
ู
ี่
ิ
ิ
ิ
ู
ุ
็
ิ
ี่
ต้องถามเหตผลทเด็กปฏบัตเปนต้น ครต้องสอนจากส่งทง่ายไปส่ส่งทยาก จากส่งใกล้ตัว ไปส่ส่ง
ู
ู
ิ
ิ
ไกลตัวจากส่งทเปนรปธรรมไปส่ส่งทเปนนามธรรม จากส่งทง่าย ๆ ไปสู่สิ่งที่สลับซับซ้อนและ
ี่
็
ิ
ี่
ู
ี่
็
ี
ี่
ี
้
ู
ื่
สอนให้ต่อเนองกับความรเดมทผู้เรยนมอยู่ ฯลฯ
ิ
2.2.4 รูปแบบการจดการเรยนการสอน
ี
ั
อาภรณ ใจแก้ว (2540:75) กล่าวว่า การจัดกิจกรรมการเรยนการสอนโดยทั่วไป
ี
์
ี
ู
ู
แบ่งได้ 2 รปแบบ ได้แก่กิจกรรมการเรยนการสอนทยึดครเปนศนย์กลาง เป็นกิจกรรมที่ครูเป็น
็
ี่
ู
ศนย์กลางของการปฏบัตกิจกรรม ครเปนผู้มบทบาทในการเรยนการสอนมากกว่านักเรยน โดยเร่ม
ู
ิ
ี
ู
ิ
ี
ี
ิ
็
จากเปนผู้วางแผนการเรยนการสอน เปนผู้นําในขณะปฏบัตกิจกรรม เปนผู้ถ่ายทอดความร การเรยน
็
้
ี
ู
ิ
ี
็
็
ิ
ึ
การสอนในชั้นเรยนจงมลักษณะเป็นสื่อสารทางเดียว นักเรียนเป็นผู้รับความรู้ กิจกรรมที่ครูใช้เช่น
ี
ี
็
ู
การบรรยาย การสาธต การถามตอบ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าครจะเปนแกนกลางของกิจกรรมแต่
ิ
นักเรยนมโอกาสร่วมกิจกรรมบ้างภายใต้การนําของคร ู
ี
ี
รฐธรรมนญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 และพระราชบัญญัติ
ั
ู
ึ
้
ิ
ี
ู
ี
การศกษาแห่งชาต พ.ศ. 2542 ได้ให้ความสําคัญแก่ผู้เรยน ดังนั้นกระบวนการเรยนรต้องยึดผู้เรยน
ี
ี
็
ู
ี
้
ุ
ู
เปนศนย์กลาง จะต้องให้ผู้เรยนมอสรภาพทั้งทางกาย และทางใจ กระบวนการเรยนรต้องกระต้น
ี
ิ
เซลล์สมอง 3 ส่วน ทั้งการเห็น การได้ยิน และประสารทสัมผัส ข้อมูลที่ต้องการให้เรียนรู้ ควรเป็น
ิ
ี
ข้อมลทเรยนรได้ทั้งสมองด้านซ้ายและด้านขวา กระบวนการเรยนรจะต้องเปดโอกาสให้ผู้เรยน
้
ี
ู
ู
ู
้
ี่
ี
ี
ี
็
1. ทํางานเปนทม อันจะช่วยให้ผู้เรยนแต่ละคนได้เรยนรู้ถึงความรู้ความสามารถความสนใจ
ี
และทักษะของแต่ละคน ก่อให้เกิดพลังการทํางานเปนกล่ม พัฒนาความสามารถทางอารมณ และ
์
็
ุ
ี่
็
ี
ี
ิ
ิ
ี
ี
ความเปนประชาธปไตย การทํางานเปนทมทมประสทธภาพนั้น สมาชกของทมต้องมความสัมพันธ ์
ิ
็
ิ
ี
ทดต่อกัน มทักษะการอยู่ร่วมกัน และทักษะการทํางานร่วมกัน 2. แสดงออกอย่างอิสระ ในการสร้าง
ี
ี่