Page 174 - 015
P. 174

166








                                                                           ุ
                                                                        ี
                         ุ
                                                                                    ์
                        ี่
                                                    ุ
                                                   ี่
                                              ็
                                                                   ั
                                  ี
                       ทสดในโรงเรยน  และยังเปนผู้ททกคนให้การยอมรบ  มมนษย์สัมพันธด้านส่วนตัวและด้านการ
                       ปฏบัตงานมากกว่าคร และสอดคล้องกับงานวิจัยของศร จันบ ารง (2549 : 79) พบว่า ผู้บรหารมการ
                            ิ
                                         ู
                         ิ
                                                                            ุ
                                                                                                      ี
                                                                     ิ
                                                                      ิ
                                                                                                 ิ
                       ปฏบัตตามบทบาทและหน้าทของผู้บรหาร เพื่อให้งานต่างๆ ขององค์การ บรรลวัตถประสงค์ ตาม
                                                       ิ
                            ิ
                         ิ
                                                                                          ุ
                                                                                              ุ
                                                ี่
                                                                                                      ี่
                                                            ิ
                            ิ
                                               ิ
                       แนวคดและหลักการการบรหารของนักบรหารและนักวิชาการเกี่ยวกับบทบาทและหน้าทของ
                                                                                                 ็
                                                                       ี
                                                                               ิ
                                                                 ี่
                          ิ
                                                                            ิ
                                        ี
                       ผู้บรหารซงจะต้องมการแสดงบทบาทและหน้าทอย่างมประสทธภาพ เมอพิจารณาเปนรายด้าน
                                ึ
                                                                                      ื่
                               ่
                       พบว่า อยู่ในระดับมากทกด้าน เรยงล าดับค่าเฉลยจากมากไปหาน้อยได้แก่ ด้านงานธรการและ
                                                   ี
                                            ุ
                                                                                                 ุ
                                                                 ี่
                                                                    ุ
                                                        ี
                       การเงน รองลงมาด้านงานกิจกรรมนักเรยน ด้านงานบคคล ด้านงานวิชาการ และด้านความสัมพันธ  ์
                           ิ
                       ชมชน
                        ุ
                                  ื่
                                                                              ึ
                                 เมอพิจารณาระดับบทบาทของอหม่ามในการจัดการศกษาศูนย์การศกษาอสลามประจ า
                                                            ิ
                                                                                               ิ
                                                                                          ึ
                                                 ิ
                                                      ็
                       มัสยิด (ตาดกา) ในจังหวัดนราธวาสเปนรายข้อในแต่ละด้าน ปรากฏผลดังน้  ี
                                ี
                                                                                               ็
                                      5.2.2.1  ดานงานวิชาการ พบว่า อยู่ในระดับมากทกข้อ แสดงให้เหนว่าอหม่าม
                                               ้
                                                                                 ุ
                                                                                                    ิ
                         ็
                                                                                            ี่
                       เหนคณค่าและความส าคัญของงานวิชาการในสถานศกษาของตน รวมทั้งพยายามทจะม่งให้เกิดการ
                           ุ
                                                                   ึ
                                                                                                ุ
                                                                                       ี่
                                                      ็
                       พัฒนางานวิชาการให้มคณภาพ  ซงเปนเปาหมายหลักของการให้การศกษาทถกต้องและเหมาะสม
                                                                                         ู
                                                   ่
                                                          ้
                                                    ึ
                                           ุ
                                                                                  ึ
                                          ี
                                                                                        ี
                                                                                                ี
                                                                                                 ุ
                                                                                ิ
                                                       ี
                                                          ุ
                                                                      ี่
                        ึ
                        ่
                       ซงสอดคล้องกับงานวิจัยของ ถาวร ศรเกต (2551 : 98) ทพบว่า ผู้บรหารโรงเรยนต้องมคณลักษณะ
                                                         ี
                                                                 ิ
                                                                                                ึ
                                                       ี่
                        ็
                                                              ิ
                                                                                   ี
                                       ิ
                       เปนผู้น าในการบรหารงานวิชาการทมประสทธภาพในการจัดการเรยนการสอนซงก่อให้เกิด
                                                                                                ่
                                                                               ิ
                                                    ี
                                                             ็
                                                                    ี่
                              ิ
                            ิ
                       ประสทธผลต่อตัวผู้เรยนและโรงเรยน และเปนหน้าทหลักของผู้บรหารงานวิชาการ สอดคล้องกับ
                                         ี
                                                                                                      ิ
                                                                                 ิ
                                        ื
                       งานวิจัยของ  ประเทอง สังข์นาค  (2545  :  บทคัดย่อ)  พบว่า  การบรหารงานวิชาการของผู้บรหาร
                                                ู
                                                                ็
                                                       ี
                                                                                                       ี
                                                                                              ิ
                                                            ิ
                       โรงเรยนเอกชนในภาพรวมครผู้สอนมความคดเหนต่อการบรหารงานวิชาการของผู้บรหารโรงเรยน
                                                                         ิ
                           ี
                                                                   ุ
                       เอกชนอยู่ในระดับมาก โดยเรยงล าดับค่าเฉลยมากสดคอ ประชมกับผู้สอนในการก าหนดกิจกรรม
                                                                     ื
                                                                            ุ
                                                             ี่
                                                ี
                                                                        ุ
                           ี
                                                             ื
                                                                                          ื
                       การเรยนการสอน  รองลงมาช่วยจัดหาหนังสอเข้าห้องสมด และให้ความร่วมมอและประสานงาน
                                                                                                   ็
                                                                                     ื่
                                                                 ึ
                                                                                ึ
                       ในการพัฒนางานวิชาการกับหน่วยงานทางการศกษาและสถานศกษาอน ผลการวิจัยเปนเช่นน้         ี
                                ็
                                                   ึ
                                     ิ
                                                                                                      ี
                       แสดงให้เหนว่าอหม่ามตระหนักถงความส าคัญของงานวิชาการอย่างยิ่ง รวมทั้งได้พยายามหาวิธการ
                                                                                                 ี
                        ี่
                                                 ี
                       ทจะน ามาใช้ในการจัดการเรยนการสอนเพื่อให้ผลสัมฤทธ์    ิทางการเรยนของนักเรยนบรรล     ุ
                                                                                      ี
                                                    ี
                                                                                       ้
                                                                                ี่
                                             ี่
                                                                                                ึ
                                    ึ
                       จดม่งหมาย  ซงภารกิจทส าคัญน้เปนหน้าทโดยตรงของอหม่ามทควรสรางให้เกิดข้นในศูนย์ฯ
                                                             ี่
                                                                          ิ
                                                      ็
                          ุ
                        ุ
                                    ่
                       (ตาดกา) ทตนเองรบผิดชอบอยู่ เพราะส่งทรบรองความเปนเลศของศูนย์ฯ(ตาดกา) แต่ละแห่งวัดได้
                                                                                        ี
                                                        ิ
                                      ั
                                                           ั
                                                                       ็
                                                                          ิ
                           ี
                                                          ี่
                                ี่
                                                                  ี
                       จากงานวิชาการและผลสัมฤทธ์ทางการเรยนของผู้เรยนจากศูนย์ฯ(ตาดกา) นั้น ซงสอดคล้องกับชศร  ี
                                                         ี
                                                                                         ึ
                                                                                 ี
                                                 ิ
                                                                                         ่
                                                                                                       ู
                         ิ
                                                                                                   ี่
                       สนทประชากร (2536 : 172) กล่าวว่า งานวิชาการสามารถแบ่งออกได้เปน 2 ส่วนคอ ส่วนทเกี่ยวกับ
                                                                                           ื
                                                                                  ็
                                                                                                    ู
                                                                                                       ี
                                                                                                      ี่
                                                 ู
                                                                                      ู
                                     ี่
                           ู
                                                                           ี่
                       ตัวครและส่วนทเกี่ยวกับหลักสตรและการจัดการสอน ส่วนทเกี่ยวกับตัวคร ได้แก่ การหาครทดมา
                                          ี่
                                                          ู
                                                                                                        ิ
                                                                                               ู
                                                    ิ
                       สอน การจัดแบ่งหน้าท การปฐมนเทศครใหม่ การสรางน ้าใจในการท า งานให้แก่คร การส่งเสรม
                                                                    ้
                                                               ี
                             ี
                           ู
                                                                                                  ู
                       ให้ครมความสามารถยิ่งข้น การพิจารณาความดความชอบการประชมคร การปกครองคร และการ
                                            ึ
                                                                                ุ
                                                                                    ู
   169   170   171   172   173   174   175   176   177   178   179