Page 171 - 015
P. 171
163
ื่
ี
ิ
ุ
ด้านการบรหารแบบมส่วนร่วม ด้านวิสัยทัศน์กว้างไกล และด้านกระบวนการควบคม เมอพิจารณา
ึ
ี
ระดับภาวะผู้น าของอหม่ามในการจัดการศกษาศูนย์การศกษาอสลามประจ ามัสยิด (ตาดกา) ใน
ิ
ึ
ิ
็
ิ
จังหวัดนราธวาสเปนรายข้อในแต่ละด้าน ปรากฏผลดังน้ ี
ุ
ี่
ี
5.2.1.1 ดานความรบผิดชอบ พบว่า อยู่ในระดับมากทกข้อ เรยงล าดับค่าเฉลย
ั
้
ื
ิ
ิ
ุ
็
ี
ี่
้
ั
มากสดคอ มความตั้งใจในการปฏบัตงานให้ส าเรจ รองลงมาพรอมรบผิดชอบต่อผลงานทเกิดจาก
ิ
ี
ิ
ี่
ิ
็
ี่
การด าเนนงาน และปฏบัตหน้าทของอหม่ามทต้องมต่อการจัดการศกษา ทั้งน้อาจเปนเพราะอหม่าม
ิ
ี
ิ
ึ
ุ
ึ
ื่
็
ั
ี
ตระหนักถงความส าคัญของการงานทกอย่างจะส าเรจได้ก็ต่อเมอมความรบผิดชอบ (อะมานะฮ)
ฺ
ื่
ี่
ี่
ี่
ี
็
ั
เช่นเดยวกับผู้ทอาสาท าหน้าทเปนผู้น าคนอน เขาจะต้องรบผิดชอบต่อผู้ทอยู่ภายใต้การน าของเขา
ั
สอดคล้องกับท่านรอซล × กล่าวถงอันตรายจากการขาดความรบผิดชอบและขาดทักษะในการ
ู
ึ
ื่
َ
»
ท างานว่า ةَعاَّسلا ِ رِظَتْناَف ِ هِلْهَأ ِ رْيَغ ىَلِ إ ُ رْمَلأا َ دِّسُو اَذِ إ : « َ لاَق ؟اَهُتَعاَضِ إ َ فْيَك : َ لاَق ... « ความว่า “เมอ
ี
ี่
ั
ฺ
มการละเลยในหน้าทรบผิดชอบ ก็จงรอวันเวลาแห่งความพินาศ” เศาะหาบะฮถามว่า “การละเลยใน
ื
ื
หน้าทรบผิดชอบเปนอย่างไรหรอ?” ท่านตอบว่า “เมอมการมอบหมายกิจการหรอหน้าทความ
ี่
็
ี
ื่
ั
ี่
ี่
ิ
ั
ึ
รบผิดชอบใดๆแก่ผู้ทไม่เหมาะสม ก็จงรอเวลาแห่งความพินาศเถด” (บันทกโดย al-Bukhari : 59)
ุ
ั
ี
ฺ
และสอดคล้องกับ อสมาอลลตฟ จะปะกียา (2012 : 3) กล่าวว่า ความรบผิดชอบ (อะมานะฮ)
ิ
ี
ี่
ิ
ั
ฺ
ึ
หมายถง ความซอสัตย์ ความไว้วางใจ และความรบผิดชอบในส่งทได้รบมอบหมาย อะมานะฮม ี
ั
ื่
ฺ
ื
ฺ
สองประเภท คอ 1) อะมานะฮทั่วไป ได้แก่ อัล-อสลาม และ 2) อะมานะฮเฉพาะ ได้แก่ ต าแหน่ง
ิ
หน้าท ของเก็บ ของฝาก การด าเนนการ การบรหารจัดการ การสัญญา การว่าจ้าง และอนๆ
ี่
ิ
ื่
ิ
์
ุ
้
ี
็
ั
้
5.2.1.2 ดานวิสยทัศนกวางไกล พบว่า อยู่ในระดับมากทกข้อ ทั้งน้อาจเปนเพราะ
ี
ี่
ิ
ี
ิ
ี่
การมวิสัยทัศนทดและกว้างไกลนั้น เปนส่งทอหม่ามในฐานะประธานศูนย์ฯ(ตาดกา) ต้องให้
์
็
ี
ี
ี่
ั
ุ
ความส าคัญและเปนตัวสะท้อนภาวะผู้น าได้เปนอย่างด เนองจากในปจจบันโลกมการเปลยนแปลง
ี
ื่
็
็
ิ
ื
ิ
้
ู
ี
ี่
ึ
ุ
ตลอด โดยเรยงล าดับค่าเฉลยมากสดคอ สนใจศกษาหาความรเพิ่มเตมอยู่เสมอ รองลงมากล้าคดกล้า
์
้
ื่
ท าในเรองใหม่ๆ และเน้นความส าคัญเรองวิสัยทัศนและพรอมถ่ายทอดไปยังผู้ร่วมงานเพื่อเปน
ื่
็
ี
็
็
ิ
แนวทางปฏบัตงานร่วมกัน ทั้งน้อาจเปนเพราะอหม่ามตระหนักและเล็งเหนถงความส าคัญของการ
ิ
ึ
ิ
ี่
ิ
ิ
ิ
ุ
็
ั
บรหารงานในยุคปจจบัน ซงอหม่ามจะต้องเปนผู้น าในการเปลยนแปลงส่งทเคยท าในศูนย์ฯ
่
ึ
ี่
(ตาดกา) ทผ่านมา ดังนั้นจะต้องมความกล้าหาญทจะเปลยนแปลง กล้าพูดเพื่อให้เกิดความเข้าใจ
ี่
ี่
ี่
ี
ี
ิ
ิ
ิ
ิ
กล้าท า กล้าตัดสนใจและคดส่งใหม่ๆ ทั้งน้เพื่อให้การด าเนนงานตามภารกิจการจัดการศกษาของ
ึ
ี
ุ
ิ
้
ึ
่
ศูนย์ฯ(ตาดกา) บรรลเปาหมาย ซงสอดคล้องกับแนวคดของ อรณ รกธรรม (2537 : 198–202) ท ี่
ุ
ี
ั
ื
ิ
ุ
ิ
็
กล่าวว่า บคลกภาพของผู้น าหรอผู้บรหารทดจะต้องเปนผู้ทมความกล้าหาญ สอดคล้องดับแนวคด
ี
ี่
ี่
ิ
ี
ของนพพงษ์ บญจตราดลย์ (2534 : 39-40) ทกล่าวว่า ผลรวมของลักษณะประจ าตัวของผู้บรหาร
ิ
ุ
ุ
ิ
ี่
ประกอบด้วยบคลกภาพ 3 ด้าน คอ ด้านร่างกาย ด้านสังคม ส่งแวดล้อม และด้านจตใจและอารมณ ์
ิ
ื
ุ
ิ
ิ