Page 81 - 013
P. 81
81
็
ึ
ี
ี่
ี
ความขัดแย้งในทางทดจะเปนการเพิ่มประสทธภาพในองค์การให้มมากข้น และ
ิ
ิ
็
ี
ี
ี
ื่
จะส่งผลดต่อการพัฒนาองค์การอกด้วย ผลเสยของความขัดแย้ง ถ้าจะเปนไปในทางเสอมจะเกิด
ุ
ความก้าวราวในองค์การ ม่งแต่จะท าลายกัน และท าให้เกิดผลเสยต่อองค์การในทสด
ี
ุ
้
ี่
ุ
จากแนวคดดังกล่าวผู้วิจัยได้สรปผลของความขัดแย้งไว้เปนตารางดังน้ ี
ิ
็
ี่
ตารางท 1 : แสดงการสรปผลบางประการทเกิดจากความขัดแย้ง
ี่
ุ
้
ผลในทางสรางสรรค์ ผลในทางท าลาย
ิ
ื่
ุ
ี
็
1. เปนการกระต้นความตนตัวและความ 1. สมาชกในองค์การมความสับสน กดดัน ก้าวราว
้
สนใจของสมาชกในองค์การ 2. การถกบังคับจตใจให้ยอมตามกล่ม
ิ
ิ
ุ
ู
ั
2. ใช้ทดสอบและปรบอ านาจทแตกต่าง 3. ขัดขวางกิจกรรมมให้ด าเนนไปได้
ิ
ี่
ิ
ื
ิ
กัน 4. ปฏเสธไม่ให้ความร่วมมอ
ึ
ู
ิ
ื่
ั
3. ดงดดให้เกิดความสนใจต่อปญหา 5. ลดการตดต่อสอสารและไม่พูดจากัน
ุ
ี่
ั
่
4. ช่วยปดเปาปญหาข้อขัดแย้งทรนแรงได้ 6. เกิดความเข้าใจผิด
ั
5. เพิ่มแรงจูงใจต่องานของกล่ม 7. เกิดการขยายตัวของข้อขัดแย้งแบบบานปลายได้
ุ
6. เกิดความคดรเร่มสรางสรรค์ 8. พลังอ านาจออกนอกทศทาง
ิ
ิ
ิ
ิ
้
7. เพิ่มความสามัคคของกล่ม
ุ
ี
ี
เสรมศักด์ วิศาลาภรณ (2534 : 22) ได้กล่าวโดยสรปว่า ความขัดแย้งทมในระดับ
ุ
ิ
ี่
ิ
์
ี่
ทเหมาะสมจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อบคคลและองค์การประโยชน์ทส าคัญบางประการได้แก่
ุ
ี่
ื่
1. ปองกันไม่ให้องค์การหยุดอยู่กับทหรอเฉอยชา
ี่
้
ื
2. ความขัดแย้งท าให้เกิดการเปลยนแปลง ผู้บรหารทฉลาดย่อมสามารถน าการ
ี่
ิ
ี่
เปลยนแปลงนั้นให้เปนประโยชน์แก่ส่วนรวม
็
ี่
ี่
ิ
3. ความขัดแย้ง เปนผลมาจากความแตกต่างของบคคลผู้บรหารทฉลาด ย่อม
ุ
็
ิ
สามารถประสานความแตกต่างมาเปนประโยชน์ต่อองค์การท าให้เกิดความคดรเร่มใหม่ๆ
ิ
ิ
็
4. ความขัดแย้ง กระต้นให้เกิดการแสวงหาข้อมูลใหม่หรอข้อเท็จจรงใหม่ หรอวิธ ี
ื
ุ
ื
ิ
ื
่
่
ุ
ั
ุ
แก้ปญหาใหม่ ต่างฝายต่างก็พยายามหาข้อมูลและเหตผลมาสนับสนนฝายตน ท าให้ได้ข้อมูลหรอ
ื
หลักฐานใหม่ หรอต่างฝายต่างก็ไม่ยอมรบวิธของกันและกัน ก็จ าเปนต้องหาทางออกใหม่
่
็
ั
ี
ี
ื่
ิ
5. ความขัดแย้งกับกล่มอน จะท าให้สมาชกภายในกล่มมความกลมเกลยวกันและ
ี
ุ
ุ
รวมพลังกัน