Page 79 - 013
P. 79
79
็
ี่
4. ด้วยการเข้าใจของความขัดแย้ง เปนความจ าเปนในการทจะพยายามหาหรอการ
็
ื
ึ
ี่
ุ
พิจารณาให้น ้าหนักของหลักฐานระหว่างค าพูดกับหลักฐานด้วยสาเหตของความขัดแย้งทเกิดข้น
ดังท ี่
อัชชาฏบรอฮมาฮูลลอฮ ได้กล่าวว่า :
ี
ี
ฺ
ี
ل نم ((
10 )) داهتجلَا ةجرد غلبي ل ، فلاتخلَا عضاوم ف ِ رع ي َ ْ َ
ْ
َْ
ู
ี่
ึ
ื่
ความว่า “ใครทไม่รจักเรองราวของความขัดแย้ง เขาผู้นั้นจะไม่ถงขั้นของการ
้
ุ
อตสาหะ”
็
ุ
ิ
Naceur Jabnoun (อ้างถงใน นเลาะ แวอเซง, 2548 : 157) ได้กล่าวไว้ว่าผลด ี
ึ
ี่
ุ
ี
ึ
ของความขัดแย้งทเกิดข้นภายในกล่ม (Consequence within the Group) มอยู่ 4 ประการ
1.1 การยึดเหนยวของกล่มเพิ่มข้น (Increased Group Cohesiveness)
ี่
ุ
ึ
ุ
ึ
ิ
เมอเกิดความขัดแย้ง สมาชกของกล่มมักจะไม่ค านงถงความคดท ี่
ื่
ึ
ิ
่
ึ
แตกต่าง แต่จะให้ความส าคัญต่อความเปนหนงและสัมพันธภาพของกล่มแทน มโนทัศนดังกล่าว
็
์
ุ
์
ุ
ี
ิ
็
ื่
ิ
น้เปนส่งอันตรายดังทได้กล่าวไว้ในเรองมโนทัศนเกี่ยวกับกล่มความคด
ี่
ึ
1.2 การเกิดข้นของผู้น าแบบเผด็จการ (Rise of Autocratic Leadership)
ในขณะเกิดความขัดแย้ง สมาชกของกล่มจะขานรบภาวะผู้น าแบบเผดจ
ิ
ั
็
ุ
ี
ิ
ิ
การมากกว่าการบรหารแบบมส่วนร่วม ในทัศนะของอสลาม จะไม่มข้ออ้างทจะละเลยการบรหาร
ี
ี่
ิ
ี
ิ
ิ
แบบมส่วนร่วมหรอการปรกษาหารอ ความจรง การบรหารแบบมส่วนร่วมมความจ าเปนยิ่งนัก
ี
ื
ึ
็
ี
ื
็
ี่
ี่
์
้
ื่
ู
ุ
เมอเกิดความขัดแย้งทเปนเหตปจจัยน าไปส่สถานการณทเลวราย
ั
ุ
1.3 ความซอสัตย์ต่อกล่ม (Loyalty to the Group)
ื่
ิ
ี
ื่
เมอเกิดความขัดแย้ง การยอมรบความคดเหนทแตกต่างกันจะมน้อย
ี่
็
ั
ิ
ิ
ู
็
ื่
สมาชกทแตกแถวมักจะถกกล่าวหาว่าเปนผู้ไม่ซอสัตย์ต่อกล่ม ค าสอนอสลามได้สั่งห้ามมให้ท า
ิ
ี่
ุ
็
ั
ิ
ู
ิ
ี
การภักดต่อส่งใดไม่ว่าจะรปใดก็ตาม เว้นแต่ส่งดังกล่าวน้เปนส่งทถกต้อง และหากกล่มยอมรบ
ุ
ู
ิ
ี
ี่
การตัดสนใจทผิดพลาด ถอเปนหน้าทของสมาชกทจะต้องแก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าว
ื
ี่
ี่
ิ
็
ิ
ี่
ิ
ิ
1.4 เน้นการปฏบัตงาน (Focus on Activity)
ิ
ุ
ุ
ึ
ี่
ิ
ประการสดท้าย กล่มจะใช้ความพยายามทมากข้นในการปฏบัตหน้าท
ี่
และความพึงพอใจของคนงานจะไม่มความส าคัญต่อไป หรอกล่าวอกนัยหนง คนงานจะมความ
่
ึ
ี
ี
ื
ี
10 หนังสอ อัลมุวาฟากอต เล่ม 4 หน้า 160
ื