Page 107 - 013
P. 107
107
ี่
ี่
่
่
ี่
์
ุ
สองฝายทขัดแย้งกันบรรลผลตามทต้องการและทั้งสองฝายได้ประโยชน แม้จะยากทใช้การ
ี
ี
ั
ุ
ั
ี่
ู
ุ
แก้ปญหาวิธน้ ในการแก้ปญหาความขัดแย้งระหว่างบคคลโดยการหาทางออกทถกต้องทสดและ
ี่
ิ
่
ความขัดแย้งหมดไป แนวทางในการแก้ไขทั้งสองฝายจะต้องด าเนนการดังน้ ี
็
ี
1. ทั้งสองฝายมความเหนว่าความขัดแย้งเปนเรองธรรมดา มประโยชนและ
ี
์
ื่
็
่
ิ
้
ี
ู
น าไปส่ความคดรเร่มและการสรางสรรค์ใหม่ ๆ เมอแก้ไขได้ถกวิธ
ิ
ู
ื่
ิ
2. แสดงให้เหนซงความไว้วางใจซงกันและกัน เปดเผยและจรงใจต่อกัน
ึ
ิ
ิ
่
็
่
ึ
ึ
ั
ื่
็
ี่
3. ต้องระลกอยู่เสมอว่าเมอตกลงแก้ปญหาความขัดแย้งกันได้และเปนทพอใจ
แล้ว ทั้งสองฝายจะต้องท าตามข้อตกลงนั้นอย่างเคร่งครด ตลอดไป
่
ั
จากอายะฮอัลกุรอานและแนวคดทั้งหมดของนักทฤษฎทกล่าวมาข้างต้นนั้น
ิ
ฺ
ี
ี่
ื
ื
ี
็
ผู้วิจัยมความเหนว่า การจะเลอกวิธการใดมาขจัดความขัดแย้งภายในองค์กรนั้นจะต้องเลอกวิธการ
ี
ี
ี่
ั
์
ุ
ี่
ี
แก้ไขปญหาทเหมาะสมกับสถานการณ และเกิดผลข้างเคยงตามมาน้อยทสด
ิ
ี
3) การบรหารในโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม
ิ
3.1 ความหมายของการบรหาร
ิ
ุ
พระราชบัญญัตการศกษาแห่งชาต พ.ศ. 2542 โดยก าหนดความม่งหมายและการ
ึ
ิ
์
ึ
ี่
็
็
จัดการศกษาไว้ว่า การจัดการศกษาต้องเปนไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เปนมนษย์ทสมบูรณทั้ง
ุ
ึ
ุ
ี
ิ
ั
้
ู
ิ
ี
ร่างกาย จตใจ สตปญญา ความรและคณธรรม มจรยธรรมและวัฒนธรรมในการต ารงชวิต
ิ
ิ
ิ
สามารถอยู่ร่วมกับผู้อนได้อย่างมความสข (มาตรา 6 พระราชบัญญัตการศกษาแห่งชาต พ.ศ.
ี
ื่
ึ
ุ
ั
ื่
ี่
็
ั
ึ
ั
2542 ) เมอพิจารณาในภาพรวมพบว่าการจัดการศกษาเปนหน้าทของรฐ แต่รฐมทรพยากรจ ากัด
ี
ี่
จงเปดโอกาสให้เอกชนจากรฐ เพื่อให้โรงเรยนมระบบการบรหารทดมประสทธภาพในการจัด
ิ
ิ
ิ
ี
ี
ั
ึ
ี
ิ
ี
่
ึ
ึ
ิ
ึ
ิ
การศกษา ซงนักบรหารและนักการศกษาได้ให้ความหมายของการบรหารแตกต่างกันตามทัศนะ
ของแต่ละคนดังน้ ี
์
ิ
ี
ุ
สธ สทธสมบูรณ (2536 : 1) ได้ให้ความหมายของการบรหาร หมายถงการ
ิ
ุ
ึ
ั
ื
ี่
ด าเนนการให้บรรลเปาหมายหรอวัตถประสงค์ทก าหนดโดยอาศัยปจจัยต่าง ๆ ได้แก่ คน เงน
ิ
ุ
ิ
ุ
้
ิ
็
ุ
ิ
์
ิ
ี
ุ
วัสด และวิธการปฏบัต เปนอปกรณในการด าเนนงาน
ึ
ึ
ส านักงานคณะกรรมการการศกษาเอกชน (2545: 82-85) ได้กล่าวถง ปจจัยและ
ั
ั
ี
ุ
ึ
ี่
ุ
คณลักษณะของปจจัยทส่งผลต่อคณภาพการศกษาเอกชนไว้ดังน้