Page 108 - 0051
P. 108
การจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานเพื่อจัดการขยะมูลฝอยในโรงเรียน 101
์
ั
้
ุ
การปัระยกต่ใช้�แนวิทุางการจััดการเรียนร�โดยใช้�ปัญหาเปั็นฐานในโรงเรียนปัลอดขึ้ยะ
่
การกระตัุ้�นให�ผู้้�เรียน ผู้้�สอนและบุคลากรในโรงเรียนเกิดการตั้้�นตั้้ว่ในการจ้ดการข้ยะมั้ลฝึอย โดยรว่มัก้นคิด
รว่มัก้นทำ รว่มัก้นแลกเป็ล�ยนเรียนร้� และร่ว่มัก้นหาข้�อตั้กลงในข้บเคล�อนใหเป็็นโรงเรียนป็ลอดข้ยะมัลฝึอย บทบาท
ี
้
่
�
้
้
่
้
้
้
้
้
้
�
ี
้
้
ิ
สำคญข้องการข้บเคล�อนคอ ผู้�บริหารสถานศึึกษาท�มัีว่สยท้ศึน์ในการจดการข้ยะมัลฝึอยท้�งโรงเรียน พัรอมัท้�งพัฒนา
้
ชีมัชีนใกล�เคียง ตั้้ว่อย่างข้้�นตั้อนกิจกรรมัที�โรงเรียนนำร้ป็แบบการจ้ดการเรียนร้�โดยใชี�ป็ัญหาเป็็นฐานไป็ใชี�ให�เกิด
ุ
ผู้ลการเป็ลี�ยนแป็ลงด�านสิ�งแว่ดล�อมัในโรงเรียน ด้งนี �
1. กำหนดป็ัญหา ผู้้�สอนสนทนาก้บผู้้�เรียน และให�ผู้้�เรียนด้ว่ดีโอเร้�อง โลกข้องอุ่นใจ ตั้อนอ๊ะ ๆ อย่าทิ�งข้ยะ
ิ
ุ
้
ี
้
ี
้
้
้
และแลกเป็ล�ยนคว่ามัคิดเห็นระหว่่างผู้�สอนกบผู้�เรียน โดยกระตั้�นจากคำถามั ดงน� 1) สถานการณ์ข้ยะมัลฝึอย
้
�
ในป็ระเทศึและตั้่างป็ระเทศึเป็็นอย่างไร 2) การจดการข้ยะมัลฝึอยในชีุมัชีนหรอโรงเรียน มัว่ธีการอย่างไรบาง
้
้
ี
ิ
หล้งจากน้�นแบ่งกลุ่มัผู้้�เรียนเพั้�อสำรว่จป็ัญหาข้ยะมั้ลฝึอยในโรงเรียน
2. กิจกรรมัระดมัสมัอง (brain storming) ผู้้�สอนกระตัุ้�นให�ผู้้�เรียนเข้าใจป็ัญหาการจ้ดการข้ยะมั้ลฝึอย โดย
�
�
เชี�อมัโยงกบสถานการณ์ข้ยะมัลฝึอยในป็ระเทศึและตั้่างป็ระเทศึ และใชีคำถามันำทาง ไดแก่ 1) ข้ยะมั้ลฝึอยมัาจาก
้
�
้
้
้
้
แหล่งใด 2) ใครเป็็นผู้ท�ก่อให�เกิดข้ยะมัลฝึอย 3) ข้ยะมัลฝึอยส่งผู้ลกระทบอย่างไร หลงจากน้�นให�ผู้�เรียนระดมัสมัอง
้
�
้
้
ี
เพั้�อหาแนว่ทางการจ้ดการข้ยะมั้ลฝึอยในโรงเรียน ด้งภาพั 3
ภาพิ 3 กิจกรรมัระดมัสมัอง
�
ทีมัา : โรงเรียนเทศึบาลบ�านศึรีฐาน จ้งหว่้ดข้อนแก่น
้
้
ี
3. การว่ิเคราะห์ป็ัญหา (problem analysis) จากกิจกรรมัระดมัสมัอง ผู้�เรียนเกิดการแลกเป็ล�ยนเรียนร้� ผู้�เรียน
�
้
�
้
ว่ิเคราะหป็ญหาข้ยะมัลฝึอยในโรงเรียน สรป็ป็ัญหาได ดงน� 1) แหลงทมัาข้องข้ยะมัลฝึอย ไดแก หองเรียน หองนำ
ี
�
่
่
ี
�
�
ุ
้
์
ั
�
�
้
้
โรงอาหาร สนามัโรงเรียน แป็ลงเกษตั้ร หองป็ฏิบ้ตั้ิการ ฯลฯ ผู้�เรียนว่ิเคราะห์ป็ัญหาป็ระเภทข้องข้ยะมัลฝึอยท�เกิดจาก
ิ
ี
�
ี
�
ี
แหล่งตั้่าง ๆ 2) ผู้�สอน ผู้�เรียน เจาหนาท� แมั่คร้ว่ คนสว่น แมัคา เป็็นผู้ท�ทำให�เกิดข้ยะมัลฝึอย 3) ผู้ลกระทบ ไดแก ่
้
�
�
�
่
้
้
้
่
ิ
่
ี
่
ี
�
่
�
ิ
�
่
่
�
่
่
กลน คว่ามัไมัเรยบรอย สกป็รก สงผู้ลตั้อสงแว่ดลอมั สงผู้ลตั้อบรรยากาศึในการเรยน สงผู้ลตั้อคาใชีจายใน
่
�
การกำจ้ด ส่งผู้ลตั้่อการทำงานข้องคนงาน คนสว่น ผู้้�เรียนมัีหน�าทีร้บผู้ิดชีอบตั้่อคว่ามัสะดว่กมัากข้ึ�น
�
4. การว่างแผู้น การศึึกษาคนคว่า (planning) ผู้�สอนมัอบหมัายใหผู้�เรียนคนคว่าหาคำตั้อบในการจดการ
้
้
�
�
�
�
�
้
ข้ยะมั้ลฝึอยในโรงเรียน ท้�งนี�การค�นคว่�าหาคว่ามัร้�จากแหล่งข้อมั้ลท้�งส้�อออนไลน์ บุคคล ห�องสมัุด และว่างแผู้น
�
้
�
้
ในการแกไข้ป็ัญหารว่มักน โดยผู้�สอนจะเป็็นผู้�อำนว่ยคว่ามัสะดว่กใหแก่ผู้�เรียน ซึ่�งการแกไข้ป็ัญหาข้ยะมัลฝึอย
้
้
�
ึ
่
�
้
ไมั่สามัารถทำได�เพัียงกลุ่มัใดกลุ่มัหนึ�ง ผู้้�สอนจะข้อสน้บสนุน หนุนเสรมัจากเพั้�อนผู้้�สอนรว่มัท้�งผู้้�บริหาร
ิ
�
5. การสร�างป็ระเด็นการเรียนร้�และป็ระยุกตั้์ใชี�ข้อมั้ลเพั้�อแก�ป็ัญหา (learning and application) คว่ามัร ้�
�
ใหมั่ข้องการจดการเรียนการสอน ไดแก่ การจดการข้ยะมัลฝึอยป็ระเภทข้ยะอินทรีย์ เกิดการเรียนร้ข้บว่นการย่อย
้
�
้
้