Page 104 - 001
P. 104

93


                   ที่ทำด้วยเงิน เสื้อผ้าคุณภาพดีและเครื่องประดับต่างๆ ในขณะที่สินค้าส่งออกจะประกอบไปด้วย

                   งาช้าง หินอาเกต เสื้อผ้าไหม และพริกไทย ทั้งนี้ การพบเหรียญสมัยศาตวาหนะเป็นจำนวนมาก
                   ภายในเมืองภรุกัจฉะก็เป็นสิ่งยืนยันได้เป็นอย่างดีถึงกิจกรรมทางการค้าที่มีความรุ่งเรืองในยุค
                   สมัยนี้

                          5.  การนับถือศาสนา กษัตริย์เกือบทุกพระองค์ในราชวงศ์ศาตวาหนะทรงนับถือศาสนา
                   พราหมณ์ ทรงฟื้นฟูระบบวรรณะและให้การดูแลนักบวชในศาสนาพราหมณ์เป็นอย่างดี อย่างไร

                   ก็ตามกษัตริย์ในราชวงศ์นี้ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีพระทัยกว้างต่อทุกศาสนา ศาสนาพุทธในยุคอานธระนี้
                                                                            ุ
                                                ุ
                   จึงรุ่งเรืองขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน พทธศาสนิกชนได้ร่วมกันสร้างพทธสถานเป็นจำนวนมาก ดัง
                   ปรากฏหลักฐานให้เห็นในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็น ถ้ำอชันตา (Ajanta Caves) ถ้ำปัณฑาว์เลนี
                   (Pandavleni Caves) ที่นาสิก (Nasik) ถ้ำภาชา (Bhaja Caves) และที่นาคารชุณโกณฑะ
                   (Nagarjunakonda) เหล่านี้ล้วนเป็นศาสนสถานเนื่องในศาสนาพทธที่อยู่ในแถบเดคข่าน –
                                                                              ุ
                   อินเดียใต้ทั้งสิ้น
                          6.  งานวรรณกรรม จากเสาพระเจ้าอโศกที่ประดิษฐานไว้ในแถบเดคข่าน แสดงให้เห็น
                   ว่าประชาชนในพนที่นี้คุ้นเคยกับตัวอักษรพราหมี (Brahmi) และภาษาปรากฤต (Prakrit) ทั้งนี้
                                  ื้
                   กษัตริย์ในราชวงศ์ศาตวาหนะมีความสนพระทัยในภาษาปรากฤต ดังนั้น ภาษาปรากฤตจึง
                   รุ่งเรืองอย่างมาก เห็นได้จากงานวรรณกรรมที่มีความโดดเด่นในยุคนี้ซึ่งผลิตขึ้นภายใต้การ

                   อุปถัมภ์ของราชวงศ์ศาตวาหนะ เป็นต้นว่า พฤหัตกถา (Brihatkatha) ก็ประพนธ์ขึ้นโดยใช้
                                                                                          ั
                   ภาษาปรากฤต อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายราชวงศ์ได้มีการปฏิรูปศาสนาพรามหณ์ขึ้นเป็นศาสนา
                                                                                  ุ
                   ฮินดู ภาษาสันสกฤตจึงเข้ามามีบทบาทอีกครั้ง แม้แต่คัมภีร์ในศาสนาพทธนิกายมหายานเช่น
                   งานของนาคารชุนผู้ก่อตั้งนิกาย“ศูนยวาท” ยังเขียนเป็นภาษาสันสกฤตทั้งหมด
                          7.  ศิลปะและสถาปัตยกรรม งานศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมต่างๆ ในยุคนี้ล้วนได้รับ

                   แรงบันดาลใจมาจากศาสนา แม้ศาตวาหนะจะสนับสนุนศาสนาพราหมณ์ แต่พุทธสถานหลายที่
                   ก็ปรากฏขึ้นทางตอนใต้นี้ไม่ว่าจะเป็นสถูปที่เมืองอมราวดี ซึ่งเป็นสถูปอิฐที่เก่าแก่ที่สุดในภาคใต้
                   ของอินเดีย ไจติยะคฤหะ (Chaityagrihas) ในนาคารชุณโกณฑะทางฝั่งตะวันออก หรือถ้ำที่

                   เจาะเข้าไปในภูเขา (rock cut) ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกเช่น ถ้ำปัณฑาว์เลนี ที่นาสิก ถ้ำภาชา
                   เป็นต้น


                   อินเดียใต้ไกล (Far deep South India ; เขตทมิฬ Tamil)
                          การมาถึงของยุคประวัติศาสตร์ตอนต้นของอินเดียใต้เริ่มต้นขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 2-

                                                                     30
                   10 หรือ 300 ปีก่อนคริสตกาลจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 4   บางครั้งเรียกยุคนี้ว่า “สมัยสังคัม”
                   (Sangam period) เพราะเป็นการตั้งชื่อตามวรรณกรรมที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นคือ วรรณกรรม

                   สังคัม  ในสมัยของพระเจ้าอโศกดินแดนส่วนใหญ่ในบริเวณใต้สุดของอินเดียนั้นประกอบไปด้วย
                        31


                          30  Upinder Singh. A History of Ancient and Early Medieval India from the Stone Age to the 12  Century,
                                                                                              th
                   p. 384.
                          31  เป็นวรรณกรรมภาษาทมิฬที่เก่าแก่ที่สุด มีลักษณะเป็นโคลงกลอนที่แต่งขึ้นโดยกวีที่มีชื่อและกวีนิรนาม เนื้อหาส่วนใหญ่
                   เป็นการสรรเสริญกษัตริย์ การทำสงครามและการอุปถัมภ์
   99   100   101   102   103   104   105   106   107   108   109