Page 108 - 001
P. 108

97


                                                                 38
                   ได้กล่าวว่า อาณาจักรปาณฑยะอยู่ถัดไปจากเนลซีดา  (Nelcynda) ตั้งอยู่บนแม่น้ำ ตัวเมืองอยู่
                                              39
                   ห่างจากทะเลราว 120 สตาเดีย  (stadia)
                                                                                                   ุ
                          กษัตริย์แห่งปาณฑยะยังส่งทูตไปโรมันพร้อมด้วยของกำนัลคือไข่มุกในช่วงราวพทธ
                   ศตวรรษที่ 6 (คริสต์ศตวรรษที่ 1)  นอกจากนี้การพบเหรียญทองแดงโรมันเป็นจำนวนมากใน
                                                 40
                   เมืองมาฑไรแสดงให้เห็นว่ามีชุมชนชาวโรมันตั้งอยู่ที่เมืองแห่งนี้ เหรียญโรมันทองคำที่พบอยู่
                            ุ
                   ทั่วไปในเขตทมิฬยังเป็นเครื่องชี้ชัดว่าทองคำของโรมันได้รับการยอมรับในสังคมและหมุนเวียน

                   อยู่ในระบบเศรษฐกิจของอินเดียใต้
                                                                                    ุ
                          ราชวงศ์ปาณฑยะดำรงต่อเนื่องมาจนกระทั่งถึงในราวพทธศตวรรษที่ 16
                   (คริสต์ศตวรรษที่ 10) เมื่อพระเจ้าปารันตกะ โจฬะที่ 2 (Parantaka Chola II) แห่งอาณาจักร

                   โจฬะได้เข้าโจมตีและขับไล่วงศ์ของปาณฑยะออกไปนอกอาณาเขต กลุ่มปาณฑยะได้รับการ
                   ช่วยเหลือจากกษัตริย์แห่งสิงหล (ลังกา) หลังจากนั้นโจฬะก็ได้ปกครองพนที่ที่เคยเป็นของ
                                                                                      ื้
                   ปาณฑยะ โดยการส่งอุปราชไปปกครอง ในยุคนี้เรียกว่าสมัยโจฬะ-ปาณฑยะ กินเวลายาวนาน
                   ราว 300 ปี คือตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 16 – 19 (คริสต์ศตวรรษที่ 10-13)
                          เมื่อเข้าสู่ช่วงต้นพทธศตวรรษที่ 19 (คริสต์ศตวรรษที่ 13) กษัตริย์ของปาณฑยะก็ได้
                                          ุ
                    ื้
                   ฟนฟราชวงศ์ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งนำโดยพระเจ้ามรวรมัน สุนทรา ปาณฑยะ(Maravarman
                        ู
                   Sundara Pandyan) แต่หลังจากนั้นในราวพุทธศตวรรษที่ 20 (คริสต์ศตวรรษที่ 14) อาณาจักร
                   ทางภาคใต้ก็ถูกสุลต่านแห่งเดลฮีเข้ารุกราน จนสูญสิ้นวงศ์ลงไปในที่สุดในราวพุทธศตวรรษที่ 21
                   (คริสต์ศตวรรษที่ 15)


                          3.  อาณาจักรโจฬะ (Chola) เป็นหนึ่งในสามอาณาจักรโบราณของอินเดียใต้ไกลในยุค
                   ต้นประวัติศาสตร์ร่วมกับอาณาจักรอีก 2 แห่ง คือ เฉระกับปาณฑยะ ประวัติศาสตร์ของโจฬะ

                   สามารถแบ่งได้เป็น 3 ช่วงด้วยกันได้แก่ โจฬะยุคต้น (early Cholas) ยุคกลาง (medieval
                   Cholas) และยุคสุดท้าย (later Cholas)
                          อาณาจักรโจฬะครอบครองพนที่ด้านฝั่งทะเลตะวันออกของเอเชียใต้และมีชายแดน
                                                     ื้
                   ติดกันกับอาณาจักรปาณฑยะ มีเมืองหลวงในระยะแรกคือ อุไรยูร์ (Uraiyur) ผู้ก่อตั้งราชวงศ์
                   โจฬะไม่มีความชัดเจน แต่ปรากฏรายชื่อกษัตริย์โจฬะยุคแรกในวรรณกรรมสังคัม อย่างไรก็ดี

                   รายชื่อดังกล่าวไม่สามารถนำมาจัดลำดับกษัตริย์ได้ เพราะปรากฏเพียงบางรายชื่อและไม่ได้บอก
                                            ์
                   ถึงช่วงเวลาในการครองราชยของแต่ละองค์ไว้ ทั้งนี้ กษัตริย์ในยุคแรกที่มีความโดดเด่นและได้รับ
                   การกล่าวถึงในวรรณกรรมสังคัมมากที่สุดคือ พระเจ้ากะริกาละ  (Karikala) สันนิษฐานว่า
                                                                             41
                   พระองค์น่าจะขึ้นครองราชย์ในราวพ.ศ. 663 (ค.ศ. 120) เรื่องราวของพระองค์ถูกบรรยายถึง
                   การต่อสู้กับกษัตริย์อีก 2 อาณาจักรคือ เฉระและปาณฑยะ จนกระทั่งพระองค์กลายเป็นวีรบุรุษ


                          38  สันนิษฐานว่าเป็นสถานที่หนึ่งในเมืองเกราลาโบราณ (Ancient Kerala) และเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรไอ (Ay)
                          39  หน่วยวัดระยะทางความยาว  ตามที่เฮโรโดตุสกล่าวไว้ว่า 1 สตาเดียเท่ากับ 600 กรีกฟุต ซึ่งยังเป็นที่ถกเถียงกันใน
                   ปัจจุบันในการเทียบระยะทางที่แท้จริง
                          40  Williams Jackson. (1906-07). History of India; Volume 2 From the Sixth Century B.C. to the
                   Mohammedan Conquest, Including the Invasion of Alexander the Great. London: The Grolier Society, p. 367.
                          41  K.A. Nilakanta Sastri. (1935). The Colas Vol.1. Madras: Ananda Press, p. 36.
   103   104   105   106   107   108   109   110   111   112   113