Page 106 - 001
P. 106
95
บริจาคด้วย และนามกษัตริย์นั้นๆ ก็ปรากฏอยู่ในวรรณกรรมสังคัมเช่นเดียวกัน จึงถือเป็นการ
พิสูจน์การมีอยู่จริงของบุคคลดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
หลักฐานจากบันทึกของชาวต่างชาติก็นับเป็นข้อมูลที่ให้รายละเอียดทางประวัติศาสตร์
ของ ทมิฬาคมได้ดีอีกประเภทหนึ่ง เนื่องจากตั้งแต่สมัยหัวเลี้ยวหัวต่อประวัติศาสตร์เป็นต้นมา
อินเดียใต้ไกลได้เข้าไปอยู่ในเครือข่ายการค้าทางทะเลของมหาสมุทรอินเดีย ดังนั้น จึงปรากฏ
เรื่องราวอยู่ในบันทึกของชาวต่างชาติโดยเฉพาะกับจักรวรรดิโรมัน อย่างไรก็ดี ทั้งชื่อและ
เรื่องราวดังกล่าวไม่ได้เอ่ยถึงคำว่าทมิฬาคมโดยตรง แต่เน้นที่ศูนย์กลางการค้าและเมืองท่าต่างๆ
บนคาบสมุทรอินเดีย (Peninsular India)
ในส่วนของหลักฐานทางโบราณคดีที่ได้จากการขุดค้นในแถบทมิฬ นาทุ (Tamil Nadu)
และเกราลา (Kerala) ได้แสดงให้เห็นว่าในยุคต้นประวัติศาสตร์ของอินเดียใต้ไกลได้เริ่มต้นวิถี
ชีวิตแบบสังคมเมือง (urban living) แล้ว ดังปรากฏหลักฐานการใช้อิฐสร้างที่อยู่อาศัย มีการบุ
ผนังบ่อน้ำด้วยวงแหวนดินเผา มีท่อระบายน้ำ ใช้เครื่องมือที่ทำด้วยโลหะ พบหลักฐานที่แสดงถึง
การทำทองและการทอผ้า นอกจากนี้ การปรากฏขึ้นของเหรียญกษาปณ์ท้องถิ่นเป็นสิ่งที่แสดง
33
ให้เห็นว่าได้เกิดระบบเงินตราเพื่อใช้แลกเปลี่ยนสินค้าแล้วในสังคม
ทั้งนี้ จากการที่เมืองท่าต่างๆ บริเวณคาบสมุทรอินเดียได้เข้าสู่การเป็นเครือข่ายการค้า
กับโลกตะวันตก พื้นที่ในเขตทมิฬจึงพบโบราณวัตถุที่มาจากต่างประเทศด้วย อาทิ เหรียญโรมัน
และภาชนะดินเผาแบบแอมฟอร่า (amphora) ซึ่งนอกจากการพบภาชนะดินเผาแบบดำ-แดง
(black and red ware) ที่ใช้กันอยู่ทั่วไปแล้ว ยังพบภาชนะดินเผาอีกประเภทหนึ่งด้วย คือ
ื
ภาชนะดินเผาที่ตกแต่งด้วยการกดเป็นลวดลายด้วยซี่ฟนเฟอง (roulette ware) ภาชนะ
ั
34
ประเภทนี้ผลิตขึ้นในอินเดียใต้และศรีลังกา แต่มีลวดลายที่ดูเหมือนว่าได้รับอิทธิพลมาจาก
ต่างประเทศ สิ่งที่น่าสนใจสำหรับภาชนะดินเผาประเภทนี้คือ มันถูกส่งไปขายยังเอเชีย
ตะวันออกเฉียงใต้ด้วย ดังที่มีการพบตามแหล่งโบราณคดีต่างๆ เช่น Bunai Complex ชายฝั่ง
ทะเลด้านทิศเหนือของเกาะชวา ที่แซมบิรัน (Sembiran) เกาะบาหลี ที่ตรา เกียว (Tra Kieu)
35
ภาคกลางของประเทศเวียดนาม และที่ภูเขาทอง จังหวัดระนอง ประเทศไทย เป็นต้น จาก
หลักฐานทางโบราณคดีที่ปรากฏ ทำให้สามารถสรุปได้ว่า อินเดียใต้ไกลหรือเขตทมิฬได้เข้าสู่
สังคมเมืองแล้วในราวหลังยุคเหล็กเป็นต้นมา โดยมีอาณาจักรที่มีอำนาจในการปกครองใน
ช่วงแรก 3 อาณาจักรด้วยกัน ดังรายละเอียดต่อไปนี้
1. อาณาจักรเฉระ (Chera) ครอบครองพื้นที่ในแถบชายฝั่งมะละบาร์ (Malabar)
เมืองหลวงคือเมืองวัญชี (Vanji) ในกลุ่มวรรณกรรมสังคัม (Sangam literature) ได้กล่าวถึง
สายผู้ปกครองของอาณาจักรเฉระว่ามีกษัตริย์องค์แรกคือ พระเจ้าอุทิยันเชราล (Udiyanjeral:
ุ
พทธศักราชที่ 673/คริสต์ศักราชที่ 130) อาณาจักรเฉระมีเมืองท่าที่สำคัญคือ ตอนทิ (Tondi)
33 Shinu A. Abraham. (2003). Chera, Chola, Pandya: Archaeological Evidence to identify the Tamil
Kingdoms of Early Historic South India. Asian Perspectives, 42 (2), 216.
34 Vimala Begley. (1988). Rouletted Ware at Arikamedu: A New Approach. American Journal of
Archaeology, 92, p. 439.
35 บุณยฤทธิ์ ฉายสุวรรณ. (2550). ทุ่งตึก เมืองท่าการค้าโบราณ. กรุงเทพฯ: สมาพันธ์, 135.