Page 11 - GL004
P. 11

ความถูกตอง เรื่องอะไรคือสิ่งที่เราตองยึดเหนี่ยวเวลาอยูดวยกัน กอนหนานี้เราเคยเชื่อวาความรูเดิม

              ก็คือความรูที่เปนกลาง  แยกขาดออกจากความรูสึกราวกับเกรงกลัววาสิ่งนี้จะเขามาทําลาย
              ความบริสุทธิ์ของความรู แตมาบัดนี้โลกทั้งผองมีความตื่นตัวเกิดขึ้นในหลายวงการวาความรูในฐานะที่

              เปนเพียงเครื่องมือ (Instrumental Knowledge) โดยไมมีสติกํากับ (Non-reflexive) นั้นกลับเปนภัย
              ของการอยูรวมกันเปนความรูอันจะนําพาโลกไปสูหายนะเพราะวิกฤตโลกรอน ฯลฯ ก็ได นี้คือ ขอแรก

              ของการเปลี่ยนแปลงสถานะของความรู
                     ประการที่สอง เงื่อนไขของการกอใหเกิดความรูและการนําเอาความรูไปใชก็มีลักษณะ

              เดินขามไปไมพนรองเดิม ดังที่ปรากฏวาแมมหาวิทยาลัยในปจจุบันจะไดมีการมอบปริญญากิตติมศักดิ์
              ใหแกบุคคลตางๆ ที่ยอมรับกันในฐานะผูสรางความรู โดยมิไดจํากัดตัวอยูแตคนในรั้วสถาบันการศึกษา
              ชั้นสูงแตฝายเดียว แตเมื่อไดมอบปริญญากิตติมศักดิ์แกทานไปแลวก็กลับไมมีเวลามาสนใจเนื้อหา

              ความรูของบุคคลเหลานั้นเอาเลย อาทิ ผูสรางความรูเปนใคร มีลําดับกระบวนการเรียนรูกันมาอยางไร
              มิติใหมของภูมิปญญาที่ตื่นเตนยินดีกันเปนความรูที่มหาวิทยาลัยยกยองโดยมิไดสําเหนียก

              อยางแทจริง แตขอสําคัญก็คือการขาดซึ่งการทําใหความรูนั้นอยูในสถานะเสมอกัน ดําเนินการ
              แลกเปลี่ยนเรียนรูซึ่งกันและกัน สําหรับสงเสริมกระบวนการเรียนรูรวมกันในมิติใหมกอเกิดขึ้นได
              ตัวขับเคลื่อนการสรางความรูในปจจุบันยอมเปนไปภายใตความมุงมาดปรารถนาที่จะอยูรวมกัน

              ที่ยั่งยืน แทนที่จะปลอยใหเปนการมุงสงเสริมกําลังการแขงขันในดานใดดานหนึ่งเทานั้น
                     อันที่จริง การแขงขันไมใชเรื่องเสียหาย แตการเนนการแขงขันดานเดียวคือทางดานเศรษฐกิจ

              การทํารายไดเพิ่มขึ้น แขงขันเพื่อจะสรางมูลคาเพิ่มโดยที่มีเครื่องชี้วัดอยางแยกสวน โดยปราศจาก
              เครื่องชี้วัดที่วัดความสามารถของการอยูรวมกันและวัดความสัมพันธของการอยูรวมกัน หากวัดแต

              ความแขงขัน ก็จะเปนการสรางความรูซึ่งชวนใหเกิดการแขงขันมากขึ้นเพื่อจะไดเห็นผลงาน อันเปนการ
              ขัดแยงกับการสรางเงื่อนความรูใหมที่ทําใหคนตองหันมาใสใจวาการแขงขันเพิ่มขึ้นนั้น หลายตอหลาย

              กรณีเปนการเบียดเบียนฐานทรัพยากรของชุมชนและสังคมสวนรวมโดยไมรูตัว เปนการทําลาย
              “สายสัมพันธ” ที่พึ่งพาอาศัยกันในการดํารงชีวิตที่ยั่งยืนในระยะยาว โดยมุงประสงคจะบรรลุเปาหมาย
              เฉพาะหนาประเทศไทยในปจจุบันมีการสรางโครงการพัฒนาขนาดใหญ (Mega-projects) ที่มี

              ความคิด เสนอ “สินคาตัวใหม ๆ” อยางตอเนื่องไมขาดสาย ไมไดหยุดยั้งเพียงแคโครงการภายใน
              พรมแดนของราชอาณาจักรไทย หากแตรวมไปถึงสรางโครงการขนาดใหญในประเทศเพื่อนบาน

              หลายตอหลายแหงแลว




              10
              10 ¡ÒÃà´Ô¹·Ò§ÊÙ‹ÊÔè§áÇ´ÅŒÍÁÈÖ¡ÉÒà¾×èÍ¡ÒþѲ¹Ò·ÕèÂÑè§Â×¹ ¡ÒÃà´Ô¹·Ò§ÊÙ‹ÊÔè§áÇ´ÅŒÍÁÈÖ¡ÉÒà¾×èÍ¡ÒþѲ¹Ò·ÕèÂÑè§Â×¹
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16