Page 135 - การศึกษาวิเคราะห์หนังสืออะกีดะฮฺ อันนาญีน ฟี อิลมฺ อุศูล อัดดีน ของชัยคฺ ซัยนฺ อัลอาบิดีน เบ็น มุฮัมมัด อัลฟะฏอนีย์
P. 135

113







                                     กลุ่มชีอะฮ์กล่าวอ้างว่า แท้จริงอะมีรุลมุอ์มิมีน อะลีย์ ได้กล่าวว่า  : “ฉันคือพระเนตร
                       ของอัลลอฮ์ และฉันคือพระหัตย์ของอัลลอฮ์ และฉันคือข้างเคียงของอัลลอฮ์ (ญัมบุลลอฮ) และฉันคือ
                                                                                              ฺ
                                     ์
                       ประตู่ของอัลลอฮ” (al-Kulainiy, 1388 : 1/145; al-Majlisiy, 1403: 24/194) และท่านยังได้กล่าวอีก
                       ว่า : “ฉันคือความรู้ของอัลลอฮ์ และฉันคือหัวใจของอัลลอฮ์ที่รําลึก และลิ้นของอัลลอฮ์ที่พูด และพระ

                       เนตรของอัลลอฮ์ที่มอง และฉันคือข้างเคียงของอัลลอฮ์ และฉันคือพระหัตย์ของอัลลอฮ”  (Ἰbn
                                                                                             ์
                       Babawaih, n.d.: 164 ; al-Majlisiy, 1403 : 24/198).
                                     จากการอธิบายข้างต้นสามารถสรุปได้ว่า กลุ่มชีอะฮ์ไม่ได้ให้ความเป็นเอกะต่อ

                             ์
                       อัลลอฮ    ในพระนามและคุณลักษณะของพระองค์ตามที่พระองค์ทรงแจ้งไว้ให้กับพระองค์เองใน
                       อัลกุรอานและท่านเราะสูลของพระองค์ได้แจ้งไว้ให้กับพระองค์ในอัลฮะดีษ แต่พวกเขากลับเอาพระ

                       นามและคุณลักษณะของพระองค์ไปให้กับมัคลูกฺ ซึ่งทําให้เกิดการภาคีต่ออัลลอฮ     ในเตาฮีดอัลอัส
                                                                                        ์
                       มาอ์และอัศศิฟาต
                                     ง. การบิดเบือนอายะฮ์เพื่อใช้สนับสนุนทัศนะของพวกเขาในการปฏิเสธคุณลักษณะ

                       ของอัลลอฮ์
                                     กลุ่มชีอะฮ์ได้บิดเบือนอายะฮ์จากสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ประทานลงมา อาทิ เช่น

                                                                                  1
                                     อิบนุ บาบะวัยฮฺได้รายงานจากอัรริฎอ อะลีย์ เบ็น มูซา  ในคําตรัสของอัลลอฮ์ที่ว่า :

                                       ﯼ  ﯻ  ﯺ  ﯹ  ﯸ  ﯷ  ﯶ      ﯵ  ﯴ  ﯳ  ﯲ  ﯱ  ﯰ  ﯯ ﯮ  ﯭ  ﯬ      ﭽ

                                                                                               ﭼ  ﯽ

                                                                     )      210   ةيأ  :  ةرقبلا  ةروس (
                                     ความว่า  “และพวกเขามิได้คอยอะไร นอกจากการที่อัลลอฮ์และ

                                     มะลาอิกะฮ์ของพระองค์จะมายังพวกเขา ในร่มเงาจากเมฆ และเรื่องนั้น
                                     ได้รับการตัดสิน และยังอัลลอฮ์นั้นเรื่องราวทั้งหลายจะถูกนํากลับไป”

                                                                           (สูเราะฮ์ อัลบะเกาะเราะฮ : อายะฮ์ 210
                                                                                     ์
                                                                                                 )
                                     อัรริฎอได้กล่าวกับอายะฮ์นี้ว่า :“แท้จริงอายะฮ์นี้คือ   ﵁ا م ي  ي فأ  إ فكر ني له (

                       ) ـامغلا نم للظ   ة ئ ضظاب  ความว่า “พวกเขามิได้คอยอะไร นอกจากการที่อัลลอฮ์จะมายังพวกเขา

                       ในนามมะลาอิกะฮ์ ในร่มเงาจากเมฆ” และนี้คือ อายะฮ์ที่ถูกประทานลงมา” (Ἰbn  Babawaih,  n.d.:
                       163 ; al-Majlisiy, 1403 : 3/319 ; Muhsin al-Ἀmīn, n.d.: 1/208).
                                     จากการอธิบายข้างต้นสามารถสรุปได้ว่า จุดประสงค์ของการบิดเบือนอายะฮ์ของ
                       ชีอะฮ์ครั้งนี้คือ พวกเขาต้องการที่จะปฏิเสธศิฟ๎ตการมาของพระเจ้าเหมือนกับคําพูดของมุอฺตะซิละฮ์






                       1
                       .ท่านมีชื่อเต็มว่า อะบู อัลฮะสัน อะลีย์ อัรริฎอ เบ็น มูสา อัลกาซิม เบ็น ญะอฺฟ๎ร อัศศอดิก เบ้น มุฮัมมัด อัลบากิร เบ็น อะลีย์ เบ็น
                        อัลฮุสัยนฺ อัลฮาชิมียยฺ เสียชีวิตในปี ฮ.ศ. 202 หรือ 203 al- Dhahabīy, 1985 : 9/387).
                                                          (
   130   131   132   133   134   135   136   137   138   139   140