Page 130 - การศึกษาวิเคราะห์หนังสืออะกีดะฮฺ อันนาญีน ฟี อิลมฺ อุศูล อัดดีน ของชัยคฺ ซัยนฺ อัลอาบิดีน เบ็น มุฮัมมัด อัลฟะฏอนีย์

108

อัลลอฮ์  ตรัสว่า :

ﭼ ﭨ ﭧ ﭦ ﭥ ﭤ ﭣ ﭢ ﭡ ﭠ ﭽ
) 131 ةيأ نم ضعب : ؼارعمأا ةروس (

ความว่า “พึงรู้เถิดว่า ที่จริงลางร้ายของพวกเขานั้นอยู่ที่อัลลอฮ์ต่างหาก

แต่ทว่าส่วนมากของพวกเขาไม่รู้”
)
์
(สูเราะฮอัลอะอฺรอฟ : ส่วนหนึ่งจากอายะฮ์ 131
แท้จริงสิ่งที่มนุษย์ได้รับจากความอุดมสมบูรณ์และความแห้งแล้ง ความดีและความ
ชั่วทั้งหมดมาจากอัลลอฮ์  แต่ทว่า ส่วนมากแล้วพวกเขาไม่รู้ (al-Baghawiy, 1420 : 2/223).

ความแห้งแล้งหรือเคราะห์กรรมต่างๆ ที่มนุษย์ได้ประสบมานั้นไมได้เกี่ยวข้องกับคน

ใดคนหนึ่ง แต่มันเป็นไปตามกฎสภาวะของอัลลอฮ์  หรือไม่ก็เป็นการลงโทษจากพระองค์ต่างหาก
จากอิบนุ อัสอูด จากท่านเราะสูล  กล่าวว่า :
ً
ً
)) ان ث ى ى ث ه ؾرش ةرػيِّ طلا ه ؾرش ةرػيِّ طلا ((
ي
ي
ٍ ىى
ٍ ىى
) 1614 : د . ت مذمر ك 3910 : د . ت دكأد وبأ هجرخأ (
ความว่า “การลางร้ายเป็นการตั้งภาคี การลางร้ายเป็นการตั้งภาคี สาม
ครั้ง”
1
(บันทึกโดย Abu Dāwūd, n.d.: 3910 ; al-Tirmidhiy, n.d.: 1614)
การลางร้ายเป็นการตั้งภาคี ทั้งนี้เนื่องจากมีการเชื่อว่าการลางร้ายนั้นสามารถดึง
ประโยชน์และปกป้องอันตรายได้ ดังนั้นผู้ใดได้ปฏิบัติเช่นนั้น เท่ากับว่าผู้นั้นได้ตั้งภาคีต่ออัลลอฮ์ 

3) การศรัทธาในเตาฮีดอัลอัสมาอ์และอัศศิฟาต

อะกีดะฮ์ของชีอะฮ์ที่เกี่ยวกับเตาฮีดอัลอัสมาอ์และอัศศิฟาตมีดังนี้คือ
ก. การให้เกินความเป็นจริงในการยืนหยัด

กลุ่มแรกที่อุตริขึ้นมาในบรรดามุสลิมคือกลุ่มจากรอฟิเฎาะฮ ์ 2 เช่น ฮิชาม เบ็น
5
3
4
อัลฮะกัม ฮิชาม เบ็น สาลิม อัลญะวาลีกีย์ ยูนุส เบ็น อับดุรเราะฮมาน อัลกุมมีย์ และอะบู ญะอฺฟ๎ร

1
อัลอัลบานีย์กล่าวว่า เป็นฮะดีษเศาะฮีฮ (al-Ἀlbāniy, 1420 : 3910).
2
รอฟิเฎาะฮ์ คือ กลุ่มที่ปฏิเสษการเป็นผู้นําของอะบี บักรฺและอุมัร (al-Ἀsh„arly, 1969 : 1/89)
3
ท่านมีชื่อเต็มว่า อะบู มุฮัมมัด ฮิชาม เบ็น อัลฮะกัม อัชชัยบานีย์ อัลกูฟีย์ อัรรอฟิฎีย์ เสียชีวิตในปี ฮ.ศ. 190 (al-Dhahabiy, 1985 :
10/543 ; al-Zirikliy, 2002: 8/85).
4 .ท่านมีชื่อเต็มว่า อะบู มุฮัมมัด ฮิชาม เบ็น สาลิม อัญะวาลีกีย์ อัลญะอฺฟีย์ เมาลา บิชรฺ เบ็น มัรวาน เป็นอุลามาอ์ รอฟิเฏาะฮ์
(al-Ἀlūsiy, 1373 : 15).
5

ท่านมีชื่อเต็มว่า อะบู มุฮัมมัด ยูนุส เบ็น อับดุรเราะฮมาน เบ็น ยักฎีน อัลกุมมีย์ เสียชีวิตในปี ฮ.ศ.208(al-Zirikliy, 2002: 8/271).