Page 138 - การศึกษาวิเคราะห์หนังสืออะกีดะฮฺ อันนาญีน ฟี อิลมฺ อุศูล อัดดีน ของชัยคฺ ซัยนฺ อัลอาบิดีน เบ็น มุฮัมมัด อัลฟะฏอนีย์
P. 138

116






                                                                     1
                                     3)  ชัยคฺอับดุรเราะฮมาน เบ็น ฮะสัน  ได้แต่งหนังสือฟ๎ตฮ อัลมะญีด ชัรฮ กิตาบ
                       อัตเตาฮีด  ( ديحو لا ؿا   حرش ديلمجا ح ف) เป็นหนังสือเตาฮีดที่สําคัญเล่มหนึ่งที่อธิบายตามแนวทาง

                       สะลัฟ เช่น ท่านอธิบายเกี่ยวกับกะลิมะฮ์ เตาฮีดหรือกะลิมะฮ์ ชะฮาดะฮ์ว่า:

                                     “จําเป็นกับการกล่าวชะฮาดะฮ์ “ลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮ” ต้องมี 7 เงื่อนไขด้วยกัน
                                                                                 ฺ
                                     ซึ่งผู้กล่าวชะฮาดะฮ์จะไม่เกิดประโยชน์เว้นแต่ต้องมีเงื่อนไขของมัน คือ 1.อัลอิลมฺ

                                     (ความรู้) ที่สามารถขจัดความโง่  2.อัลยะกีน (การเชื่อมั่น) ที่สามารถขจัดความ

                                     สงสัย  3.อัลเกาะบูล (การยอมรับ) ที่สามารถขจัดการต้านทาน  4.อัลอินกิยาด (การ
                                     เชื่อฟ๎งและปฏิบัติ) ที่สามารถขจัดการละทิ้ง  5.อัลอิคสาศ (การบริสุทธิ์ใจ) ที่

                                     สามารถขจัดการมีภาคี  6.อัศศิดกฺ (การสัจจริง) ที่สามารถขจัดการโกหก 7.

                                     อัลมะฮับบะฮ์ (การรัก) ที่สามารถขจัดตรงกันข้ามของมัน และเป็นหลักฐานว่า
                                     เตาฮีดที่นํามาซึ่งการบริสุทธิ์ในการทําอิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์พระองค์เดียวไม่มีการภาคี

                                     และละทิ้งการทําอิบาดะฮ์ที่นอกเหนือจากพระองค์ คือ เป็นสิ่งแรกที่วาญิบ และด้วย
                                     เหตุผลนี้ทําให้บรรดาเราะสูล อะลัยฮิมุสสะลาม ได้เรียกร้องไปสู่มัน ดังคําตรัสว่า
                                                                                                        ﭽ



                                     ﭼ  ﮄ  ﮃ    ﮂ     ﮁ  ﮀ  ﭿ     ﭾ  ﭽ ความว่า  : พวกท่านจงเคารพภักดีอัลลอฮ์เถิด สําหรับ
                                     พวกท่านนั้นไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ (สูเราะฮ์อัลมุอ์มินูน :  อายะฮ์ 32)

                                                    ﭼ
                                     และนูฮได้กล่าวว่า  ﮣ   ﮢ  ﮡ    ﮠ  ﭽ ความว่า : เพื่อพวกท่านจะได้ไม่เคารพภักดีผู้ใด
                                     นอกจากอัลลอฮ์ (สูเราะฮ์ฮูด  : อายะฮ์ 2) และในอายะฮ์นั้นตรงกับความหมายของ

                                                       ฺ
                                     “ลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮ” („Abd al-Rahmān bin Hasan, 1992: 73).
                                     กลุ่มสะลัฟในศตวรรษที่ 13 ยึดแนวทางยึดมั่นเหมือนกับชาวสะลัฟในสมัยก่อน ๆ

                       เช่น สมัยสะลัฟและสมัยเคาะลัฟ
                                     ชาวสะลัฟมีความเข้าใจว่าสิ่งแรกที่วาญิบกับมนุษย์ทุกคนคือ การกล่าวกะลิมะฮ์

                       ชะฮาดะฮ์ ซึ่งแตกต่างกับชาวเคาะลัฟที่มองว่าสิ่งแรกที่วาญิบกับมนุษย์ทุกคนคือ การรู้จักอัลลอฮ์ด้วย
                       การสังเกตุและการพิสูจน์

                                     2.3.1.2  กลุ่มเคาะลัฟ

                                     เตาฮีดกลุ่มเคาะลัฟ ในศตวรรษที่ 13 แห่งฮิจญ์เราะฮ์ศักราชพบว่า ด้านหลักการ
                                                                2
                       เหมือนกับเตาฮีดในศตวรรษที่ 4  ถึงศตวรรษที่ 12
                                     ในบรรดาอุละมาอ์ศตวรรษที่ 13 ที่อธิบายและเผยแพร่อะกีดะฮ์เตาฮีดตามแนวทาง

                       เคาะลัฟ อาทิ เช่น


                       1
                       .ท่านมีชื่อเต็มว่า  อับดุรเราะฮมาน เบ็น ฮะสัน เบ็น มุฮัมมัด เบ็น อับดุลวะฮาบ  เสียชีวิตในปี ฮ.ศ. 1285 (al-Dhahabiy, 2003 :
                        15/572 ; al-Zirikliy, 2002 : 3/304).
                       2  ดูหน้า 79-100
   133   134   135   136   137   138   139   140   141   142   143