Page 52 - 050
P. 52
30
ี่
ู
3) ท าให้โรงเรยนสามารถสรางผลตอบแทน (Returns) ทเหนอกว่าค่แข่งได้ด้วยการ
้
ี
ื
ี
ั
สรางข้อได้เปรยบในการแข่งขัน และสามารถรกษาข้อได้เปรยบไว้ได้
ี
้
ิ
ิ
4) ช่วยให้ผู้บรหารสามารถยกระดับผลการปฏบัตงานข้ ึนมาได้ โรงเรยนจะ
ี
ิ
ื
ิ
ิ
ิ
ี
ี่
ุ
ิ
ิ
สามารถบรรลทั้งประสทธ คอ การมการด าเนนงานทดีกว่า และมประสทธผล คอ การบรหารงาน
ื
ี
ิ
์
ุ
ี่
ิ
ุ
ิ
ู
ี่
บรรลผลตามวัตถประสงค์ทตั้งไว้ได้ ถ้ามการบรหารเชงกลยุทธทถกต้องเหมาะสมในช่วงของการ
ี
ิ
ิ
ิ
์
์
ุ
ก าหนดกลยุทธ การน าแผนกลยุทธไปปฏบัต และการควบคมตดตามผล
ื
์
ิ
ี
5) ช่วยให้ผู้บรหารมการท างานในลักษณะ Proactive คอ คาดการณเหตการณ ต่าง
ุ
์
ๆ ทจะเกิดข้นโดยเปนฝายรกมากกว่าฝายตั้งรบและปองกันตัว จะท าให้โรงเรยนสามารถปรบตัวได้
่
ุ
ี
ึ
้
ี่
ั
่
ั
็
ู
ี
ดกว่าค่แข่ง
ิ
ิ
ึ
แนวคดดังกล่าวสอดคล้องกับ จนตนา บญบงการ (2544:48)ทกล่าวถงความส าคัญ
ุ
ี่
ของการบรหารเชงกลยุทธ์ไว้ว่า
ิ
ิ
ิ
ี
ิ
ี
็
1) เปนการก าหนดทศทางของโรงเรยน ช่วยให้ผู้บรหารมความเข้าใจต่อการ
ู
เปลยนแปลง และสามารถด าเนนงานต่างๆได้อย่างเปนรปธรรม
็
ิ
ี่
2) สรางความสอดคล้องในการปฏบัต การก าหนดการประยุกต์ การตรวจสอบ
ิ
้
ิ
และการควบคมกลยุทธ์ของโรงเรยน
ุ
ี
์
้
ี
้
3) สรางความพรอมให้แก่โรงเรยน การวิเคราะหสภาพแวดล้อมและการก าหนด
์
ุ
ี
ิ
ิ
กลยุทธช่วยให้ผู้บรหารและบคลากรเกิดความเข้าใจในภาพรวมของโรงเรยน ตลอดจนอทธพลของ
ิ
ปจจัยแวดล้อมทมต่อโรงเรยน
ั
ี่
ี
ี
ี่
ึ
ิ
แนวคดดังกล่าวยังสอดคล้องกับ สมยศ นาวีการ (2546) ทกล่าวถงความส าคัญของ
การบรหารเชงกลยุทธ์ไว้ว่า
ิ
ิ
ี
ุ
ิ
1) การบรหารเชงกลยุทธจะช่วยให้โรงเรยนม่งไปส่วัตถประสงค์อย่างเดยวกัน ถ้า
ี
ิ
ุ
ู
์
ิ
ี
ู
ี
์
ี่
ิ
ิ
ปราศจากแนวทางทก าหนดโดยการบรหารเชงกลยุทธแล้วโรงเรยนมักจะโน้มเอยงไปส่ทศทางท ี่
แตกต่างกัน
ิ
์
ิ
2) การบรหารเชงกลยุทธบังคับให้ผู้บรหารต้องมประสทธภาพและตระหนักถง
ึ
ิ
ิ
ิ
ี
ึ
ิ
ั
ิ
สภาพแวดล้อมของพวกเขามากข้นการบรหารเชงกลยุทธ จะปลกฝงนสัยการใช้ความคดและการ
ิ
ู
ิ
์
มองอนาคตแก่ผู้บรหาร
ิ
ุ
3) การบรหารเชงกลยุทธ ไม่เพียงแต่สนับสนนความผูกพันในส่วนของผู้บรหารท ี่
ิ
ิ
์
ิ
มส่วนร่วมเท่านั้น แต่จะช่วยลดการต่อต้านในส่งทพวกเขาไม่เข้าใจ บคคลส่วนใหญ่จะยอมรบการ
ี
ั
ิ
ี่
ุ
ื
ี่
็
ี่
ั
ตัดสนใจเมอพวกเขาเข้าใจปจจัยทจ ากัด และทางเลอกทเปนไปได้
ิ
ื่