Page 295 - 050
P. 295
273
ี่
ี
ึ
ุ
มโครงสรางและแบบแผนทชัดเจนแน่นอนใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และขออนญาตบันทกเสยง
ี
้
ู
ึ
์
ี่
ู
์
ขณะสัมภาษณเพื่อให้ได้ข้อมลทครบถ้วนสมบรณยิ่งข้น
ิ
ี่
ู
์
5. การวิเคราะหข้อมลและสถตทใช้ : การวิเคราะหข้อมลเชงปรมาณ ผู้วิจัยได้
ิ
ิ
ู
ิ
์
ู
ิ
ด าเนนการวิเคราะหหาค่าต่างๆด้วยโปรแกรมส าเรจรปทางสถต โดยน าข้อมลทได้จากแบบสอบถาม
์
ี่
ิ
ู
ิ
็
ี่
ู
ี่
์
ตอนท 1 วิเคราะหข้อมลโดยหาค่าความถ(Frequency ) และค่ารอยละ (Percentage) ตอนท 2
ี่
้
ี่
์
ี่
ู
วิเคราะหข้อมลโดยการหาค่าเฉลย (Mean) และค่าเบยงเบนมาตรฐาน(Standard Deviation) การ
ุ
ี
ี
ี่
ี
ี
เปรยบเทยบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลย 2 กล่มโดยใช้ t-test และเปรยบเทยบความแตกต่าง
ี
ุ
ระหว่างค่าเฉลยมากกว่า 2 กล่ม โดยใช้ความแปรปรวนทางเดยว F-test กรณพบความแตกต่างของ
ี่
ี
ี่
็
ี
ู
ี่
ี
์
ค่าเฉลย ทดสอบค่าแตกต่างเปนรายค่โดยวิธการของ Scheffe และตอนท 3 ใช้วิธวิเคราะหข้อมลโดย
ู
ี่
ใช้ความถประกอบความเรยง ส่วนการวิเคราะหข้อมลเชงคณภาพ คอ ข้อมลทได้จากการสัมภาษณ ์
ุ
ู
ื
์
ู
ิ
ี
ี่
ใช้วิธน าเสนอในรปความเรยง
ี
ี
ู
ผลการวิจยและการอภิปรายผล
ั
ิ
ผลการวิจัยสภาพ ปญหาและแนวทางการด าเนนการตามกระบวนการบรหาร
ิ
ั
ี
ิ
์
เชงกลยุทธของโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม สังกัดส านักงานการศกษาเอกชนจังหวัดปตตาน ี
ั
ึ
ิ
ี่
ิ
ี
มประเด็นทควรน ามาอภปราย เพื่อให้เปนไปตามวัตถประสงค์ของการวิจัย ผู้วิจัยของน าเสนอการ
ุ
็
ิ
อภปราย ดังน้ ี
ิ
์
ิ
ึ
ื่
ิ
1. เพอศกษาระดับสภาพการด าเนนการตามกระบวนการบรหารเชงกลยุทธของ
ี
ั
ั
ึ
ั
โรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม สงกัดสานกงานการศกษาเอกชนจังหวัดปตตาน ี
ิ
ิ
ิ
ผลการวิจัยพบว่า สภาพการด าเนนการตามกระบวนการบรหารเชงกลยุทธของ
์
ิ
โรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม มระดับการปฏบัตในภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก
ี
ี
ิ
ิ
ิ
ี
์
ี
ิ
สอดคล้องกับผลการวิจัยของ ทรงศักด์ ิ ศรวงษา (2550) พบว่า การบรหารเชงกลยุทธในโรงเรยน
ิ
ประถมศกษาตามการรบรของผู้บรหารโรงเรยนและครผู้สอนอยู่ในระดับมาก ทั้งโดยภาพรวมและ
ี
ู
ึ
ั
้
ู
ิ
ิ
รายด้าน และสอดคล้องกับผลการวิจัยของ พิมลพรรณ ดษยาม (2550) พบว่า การบรหารเชงกลยุทธ ์
ี
ุ
ิ
ึ
ของผู้บรหารสถานศกษาเอกชนในภาพรวมและทกขั้นตอนอยู่ในระดับมากเช่นกัน ผลการวิจัยเปน
ุ
ิ
็
ิ
ุ
ู
เช่นน้ เปนเพราะว่าผู้บรหาร ตลอดจนคณะครและบคลากรของโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม
ี
ี
็
ิ
็
ี
ิ
ิ
ี
ี
ให้ความส าคัญและมส่วนร่วมในการด าเนนการตามกระบวนการบรหารเชงกลยุทธเปนอย่างด มการ
์
ิ
ิ
ุ
์
ิ
้
ู
ี
ปรบปรงและพัฒนาตนเองตลอดเวลาท าให้มความรความเข้าใจกระบวนการบรหารเชงกลยุทธและ
ั
เปนผู้น าในการขับเคลอนกระบวนการบรหารเชงกลยุทธของโรงเรยนทั้ง 5 ด้านเพื่อให้การ
็
ิ
ิ
ี
์
ื่