Page 199 - 050
P. 199
177
ี
ุ
ุ
ึ
ุ
ิ
คณภาพของบคลากรในสถานศกษา และสอดคล้องกับผลการวิจัยของพิมลพรรณ ดษยาม (2550) ท ี่
์
์
ิ
ิ
ิ
พบว่า การบรหารเชงกลยุทธของผู้บรหารสถานศกษาเอกชน ขั้นตอนการวางแผนกลยุทธ ใน
ึ
ื
ุ
ี่
ุ
ภาพรวมและรายข้ออยู่ในระดับมาก โดยข้อทมค่าเฉลยสงสด คอผู้บรหารแจ้งให้บคลากรทราบ
ู
ี่
ิ
ี
เกี่ยวกับเปาหมายของโรงเรยนอย่างชัดเจน รองลงมา ผู้บรหารและครมส่วนร่วมในการก าหนด
ิ
ู
ี
ี
้
้
เปาหมายของผู้เรยน และร่วมกันวิเคราะหสภาพแวดล้อมภายนอกโรงเรยนเพื่อทราบถงโอกาสและ
ี
์
ี
ึ
ี
อปสรรคในการพัฒนาโรงเรยน และสอดคล้องกับผลการวิจัยของ นันทพล พงษ์สรอย (2550)
ุ
ึ
์
ิ
พบว่า สภาพการด าเนนการวางแผนกลยุทธของสถานศกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดส านักงานเขตพื้นท ี่
ุ
์
ี
การศกษากาญจนบร ด้านการวิเคราะหสภาพแวดล้อมสถานศกษา โดยภาพรวม พบว่า มสภาพการ
ึ
ึ
ี
ี
ด าเนนการวางแผนกลยุทธในภาพรวมและรายข้ออยู่ในระดับมาก โดยข้อทมค่าเฉลยสงสด
ุ
ี่
์
ู
ิ
ี่
ื
ี
ี
เรยงล าดับจากมากไปหาน้อยสามอันดับแรก คอ การมส่วนร่วมของผู้รับผิดชอบในการวิเคราะห ์
์
ึ
ู
้
ุ
สภาพแวดล้อมสถานศกษา ความรความเข้าใจในการวิเคราะหจัดอันดับจดแข็งและโอกาสของ
สถานศกษาและความรความเข้าใจในการวิเคราะหจัดอันดับจดอ่อนและอปสรรคของสถานศกษา
์
ึ
ุ
ุ
ู
้
ึ
ิ
ิ
์
ิ
ี
2) สภาพการด าเนนการตามกระบวนการบรหารเชงกลยุทธของโรงเรยนเอกชน
ิ
สอนศาสนาอสลาม สังกัดส านักงานการศกษาเอกชนจังหวัดปตตาน ด้านการก าหนดทศทางของ
ี
ึ
ั
ิ
ื่
โรงเรยน โดยภาพรวมอยู่ในระดับ ปานกลาง เมอพิจารณารายข้อ พบว่า ส่วนใหญ่ อยู่ในระดับ มาก
ี
ื
ิ
ี่
ู
ุ
ู
และอยู่ในระดับ ปานกลาง โดยข้อทมค่าเฉลยสงสด คอ ผู้บรหาร คร และบคลากรของโรงเรยน
ี
ุ
ี่
ี
ู
ิ
ิ
ุ
ร่วมกันก าหนดทศทางในการพัฒนาโรงเรยนอย่างชัดเจน และผู้บรหารส่งเสรมให้ครและบคลากร
ิ
ี
ี
ี
ในโรงเรยนมส่วนร่วมในการก าหนดวิสัยทัศน พันธกิจ ปรชญา และเปาหมายของโรงเรยนอยู่ใน
ั
ี
์
้
ิ
ิ
ี
ระดับ มาก รองลงมา ก าหนดพันธกิจหลักของโรงเรยนทจะด าเนนการให้ชัดเจนและสามารถปฏบัต ิ
ี่
ได้ แล้วจัดเรยงล าดับความส าคัญของพันธกิจเพื่อแสดงให้เหนงานหลักของโรงเรยน
ี
ี
็
ี
ู
ผลการวิจัยเปนเช่นน้ เปนเพราะว่าผู้บรหาร คร และบคลากรของโรงเรยนเอกชน
็
็
ิ
ุ
ี
สอนศาสนาอสลามให้ความส าคัญและความร่วมมอ ร่วมแรงร่วมใจในการปฏบัตงานเพื่อทจะ
ิ
ื
ิ
ิ
ี่
์
ี
ี
ุ
ุ
พัฒนาโรงเรยนและคณภาพผู้เรยน ตามทอับดลเลาะ ยีเลาะ (2512) ได้ให้ค าสัมภาษณกับผู้วิจัยว่า
ี่
ิ
ุ
ี
ิ
ี
“ในการบรหารจัดการในโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามจะต้องเน้นให้ทกคนมส่วนร่วมทั้งใน
ุ
ู
ด้านของผู้บรหาร คร บคลากรของโรงเรยน คณะกรรมการสถานศกษา ผู้ปกครอง ชมชนทกคนต้อง
ิ
ี
ึ
ุ
ุ
็
ุ
ี
็
ุ
ี
มส่วนร่วม ตั้งหลักตั้งโจทย์เอาไว้ โรงเรยนน้ต้องเปนของทกคน ในเมอเปนของทกคน ทกคนก็ต้อง
ุ
ี
ื่
ุ
็
มส่วนร่วม ทกคนเปนเจ้าของ ทกคนก็จะมความรกโรงเรยน ” ซงเมอผู้บรหาร คร และบคลากรของ
ี
ุ
ู
ึ
่
ิ
ี
ื่
ั
ี
ุ
ิ
ี
ื
ิ
ี
โรงเรยนเกิดความรกต่อโรงเรยนจะส่งผลให้เกิดความร่วมมอกันในการปฏบัตงานก าหนดทศทาง
ิ
ั
ิ
ี
ี
็
ี
ในการพัฒนาโรงเรยนอย่างชัดเจนให้เปนไปในทศทางเดยวกัน เช่นเดยวกันในการท างานของ
ิ
มสลมทกคนต้องมความชัดเจนว่า มสลมทกคนมหน้าทส าคัญ นั่นก็คอเปนตัวแทนของประชาชาตท ี่
ี่
ุ
็
ี
ุ
ิ
ิ
ุ
ุ
ี
ื