Page 19 - 049
P. 19

5


                                                                                      ี
                        ิ
                                                ี
                                                           ึ
                       เชงบวกและเชงลบ นอกจากน้ยังต้องเข้าใจถงธรรมชาตของความขัดแย้งทมพื้นฐานมาจากความ
                                   ิ
                                                                                    ี่
                                                                     ิ
                                                                            ึ
                                                                                            ี่
                                                                                                ็
                                   ุ
                                                 ื่
                                                      ิ
                       แตกต่างของบคคล ด้านความเชอ ค่านยมและวัฒนธรรม ดังนั้นจงต้องอาศัยทักษะทจ าเปนใน
                       การบรหารความขัดแย้ง ได้แก่ ทักษะด้านการวิเคราะหสถานการณ การเจรจา การกระจายความเปน
                            ิ
                                                                              ์
                                                                                                        ็
                                                                    ์
                                                                                       ิ
                                                            ู
                                                             ้
                                                                 ึ
                                                                                  ์
                                                         ี
                       ธรรม และการใช้อ านาจ ซงเกิดจากการเรยนร การฝกฝน โดยใช้ศาสตรและศลปในการบรหาร
                                                                                                  ิ
                                                                                         ์
                                             ึ
                                            ่
                       ความขัดแย้งบนพื้นฐานทฤษฎทอธบายว่า ความขัดแย้งเปนส่วนหนงของกระบวนการขัดเกลาทาง
                                                                               ึ
                                                                      ็
                                                    ิ
                                                ี
                                                                               ่
                                                 ี่
                                  ุ
                                                         ่
                                               ุ
                                                         ึ
                                                     ุ
                                                             ี
                                                            ี่
                                ี
                                                                             ี
                       สังคม ไม่มกล่มทางสังคมกล่มใดกล่มหนงทมความสมานสามัคคอย่างสมบูรณ เพราะความขัดแย้ง
                                                                                        ์
                                                                 ั
                       เปนส่วนหนงของมนษย์ ความขัดแย้งสามารถแก้ปญหาความแตกแยกและท าให้เกิดความสามัคค    ี
                                        ุ
                        ็
                                 ึ
                                 ่
                                                         ็
                                                                                                   ็
                                                ี
                                                                             ู
                                                                        ็
                                             ุ
                               ุ
                                                            ิ
                       ภายในกล่มได้ เพราะในกล่มมทั้งความเปนมตรและความเปนศัตรอยู่ด้วยกัน ความขัดแย้งเปน
                                              ี่
                                                                                               ็
                                                                                      ี
                                                                                  ี่
                       ตัวสนับสนนให้เกิดการเปลยนแปลงทางสังคม สามารถท าให้สังคมเปลยนชวิตความเปนอยู่จาก
                                ุ
                                                     ิ
                                                                                                   ึ
                                                        ี่
                                                          ุ
                       ด้านหนงไปส่อกด้านหนง จากแนวคดทสรปข้างต้น ผู้วิจัยได้สังเคราะหแนวคดจากนักการศกษา
                             ่
                                           ่
                                           ึ
                                                                                  ์
                             ึ
                                  ู
                                                                                       ิ
                                   ี
                               ี
                       ดังต่อไปน้ Robbins (1996) Weber (1968) Thomas (1976) Deep (1978) Katz and Kahn (1978)
                       Howat and London (1980) Pneuman and Bruehl (1982) David (1983) Johnson and Johnson
                       (1987) Thoman and Kilmann (1987) Robbins (1990) Macionis (1993) Johnson and Johnson
                                                                           ั
                                                                                         ุ
                                                                                                ิ
                                                                                                 ิ
                                                             ุ
                                                        ิ
                                                                        ุ
                       (2000) Daniel (2001) Rahim (2001) วินจ เกตข า (2535) อรณ รกธรรม (2537) บญช่วย ศรเกษ
                       (2540) ไพบูลย์ ฉ่งทองค า (2541) พรนพ พุกกะพันธ (2542) จรรยา เสยงเทยนชัย (2544) นรนทร  ์
                                                                                                   ิ
                                                                                     ี
                                     ิ
                                                                  ์
                                                                                ี่
                                                               ิ
                       แจ่มจ ารส (2544) มหาวิทยาลัยสโขทัยธรรมมาธราช (2544) สเทพ พงศ์ศรวัฒน์ (2544) สนันทา
                             ั
                                                                                    ี
                                                                                                ุ
                                                                          ุ
                                                  ุ
                                                                                       ั
                                             ิ
                       เลาหนันท์ (2544) พรชัย ลขตธรรมโรจน์ (2545) นนท์ นนท์พยอม (2545) วิรช สงวนวงศ์วาน
                                              ิ
                                ี
                                                                                             ี
                                                                                                     ุ
                                       ุ
                       (2546) วิเชยร วิทยอดม (2547) วงศา เลาหศรวงศ์ (2548) พระมหาหรรษา (2554) วิเชยร วิทยอดม
                                                           ิ
                                                            ิ
                       (2555) และเอกชัย บญยาธษฐาน (2555)
                                        ุ
                                             ิ
                                                                              ึ
                                                                   ิ
                                                                                                    ิ
                                                        ึ
                                   1.3 สันตศกษา เปนการศกษาเรองสันตภาพให้เกิดข้น เน้นการปลูกฝงทัศนคตให้ใฝ ่
                                                  ็
                                            ึ
                                                             ื่
                                                                                            ั
                                          ิ
                                                                                         ้
                                                                            ั
                                                                                              ้
                               ี
                            ู
                            ้
                           ิ
                                                                                         ู
                       สันต รวิธแก้ปญหาความรนแรง สรางสันตภาพเพื่อน าไปใช้แก้ปญหา น าความรไปสรางสันตได้
                                                                                                    ิ
                                            ุ
                                                          ิ
                                   ั
                                                    ้
                                                                                         ุ
                                                                                    ิ
                                                           ิ
                                 ื่
                       ม่งเน้นการสอสารและยุทธวิธในการปฏบัตการทไม่ใช้ความรนแรง แนวคดทสรปข้างต้น ผู้วิจัยได้
                                                                                       ี่
                                                        ิ
                        ุ
                                               ี
                                                               ี่
                                                                          ุ
                                   ิ
                                               ึ
                              ์
                       วิเคราะหแนวคดจากนักการศกษา ดังต่อไปน้ Ralph Summy (1985) ร่งธรรม ศจธรรมรกษ์ (2541)
                                                                                         ิ
                                                                                               ั
                                                                                        ุ
                                                            ี
                                                                                ุ
                                                          ิ
                                                  ิ
                                                               ั
                       พระมหาหรรษา (2554) และไพรนทร โชตสกุลรตน์ (2554)
                                                      ์
                                   1.4 สานเสวนา เปนกระบวนการทน ามาใช้ในการแปลงเปลยนความขัดแย้ง ลดความ
                                                  ็
                                                                ี่
                                                                                     ี่
                                                        ี
                                        ้
                                                                  ็
                                                                            ี่
                                    ิ
                                                                                              ื
                       ไม่เข้าใจ ส่งเสรมสรางความปรารถนาดต่อกัน อันเปนก้าวแรกทจะน าไปส่ความร่วมมอ ร่วมใจ
                                                                                     ู
                                                                                                 ื
                              ั
                                                                                       ็
                                                                                     ี
                                                                               ี่
                       ร่วมแก้ปญหาของสังคม โดยการฟงอย่างตั้งใจ เกิดความเหนใจ เปลยนท่าทเปนการร่วมมอกันโดย
                                                   ั
                                                                       ็
                                        ิ
                                                                            ิ
                       ไม่มการบังคับ แนวคดทสรปข้างต้น ผู้วิจัยได้พัฒนากรอบแนวคดจากนักการศกษา ดังต่อไปน้  ี
                                                                                        ึ
                                             ุ
                          ี
                                           ี่
                                                                                          ิ
                       Leonard (1987) Bohm (1991) วันชัย วัฒนศัพท์ (2547) ศูนย์สันตวิธและธรรมาภบาล (2547)
                                                                             ิ
                                                                               ี
   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24