Page 18 - 049
P. 18
4
1. ขอบเขตของเน้อหา
ื
ี่
ระยะท 1 ผู้วิจัยวิเคราะหองค์ประกอบสมรรถนะการบรหารความขัดแย้งโดย
์
ิ
ี
ึ
ิ
ิ
ิ
ี
์
การศกษาวิเคราะห หลักการ แนวคดและทฤษฎ ได้แก่ แนวคดและทฤษฎเกี่ยวกับสมรรถนะ แนวคด
ุ
ึ
ิ
ี
ิ
์
ุ
และทฤษฎเกี่ยวกับความขัดแย้ง สันตศกษา สานเสวนา ชาตพันธ พหวัฒนธรรม และการมส่วนร่วม
ี
ของประชาชน ดังมรายละเอยดต่อไปน้ ี
ี
ี
ี
ิ
1.1 แนวคดและทฤษฎเกี่ยวกับสมรรถนะ
ิ
ี
ุ
ิ
ื่
้
แนวคดเรองสมรรถนะมพื้นฐานมาจากการม่งเสรมสรางความสามารถให้กับ
ุ
ทรพยากรบคคล โดยมความเชอว่าเมอพัฒนาคนให้มความสามารถแล้ว คนจะใช้ความสามารถทม ี
ี
ื่
ี
ื่
ี่
ั
้
ไปผลักดันให้องค์กรบรรลเปาหมาย สามารถอธบายด้วยโมเดลภูเขาน ้าแข็ง ในลักษณะของความ
ุ
ิ
็
ื
ี่
แตกต่างระหว่างบคคลโดยมส่วนทเหนได้ง่ายและสามารถพัฒนาได้ คอส่วนยอดภูเขาทลอยอยู่
ุ
ี
ี่
ี่
็
ื
้
ุ
ู
่
ี
ี่
ื
เหนอน ้า นั่นคอองค์ความรและทักษะต่างๆ ทบคคลมอยู่ ส่วนทมองเหนได้ยากอยู่ใต้ผิวน ้า ซงม ี
ึ
ื
ุ
ิ
ี่
ขนาดใหญ่ นั่นคอแรงจูงใจ อปนสัย ภาพลักษณภายในและบทบาททแสดงต่อสังคม เปนส่วนทม ี
็
์
ี่
ิ
ผลต่อพฤตกรรมในการท างานของบคคลและต้องอาศัยระยะเวลาในการพัฒนา ซงมหลายระดับ
่
ี
ุ
ึ
ิ
ตั้งแต่ระดับพื้นฐานถงระดับทซับซ้อน ผู้บรหารทมสมรรถนะ สามารถท างานได้อย่างม ี
ึ
ี
ี่
ี่
ิ
ี
่
ึ
ิ
ิ
ิ
ู
ุ
ประสทธภาพและเกิดประสทธผลสงสดแก่องค์กร ซงวิธด าเนนการในการพัฒนาสมรรถนะ ได้แก่
ิ
ึ
ุ
ึ
การศกษาต่อ การปรกษากับผู้เชยวชาญ การหมนเวียนงาน การสอนงาน การมอบหมายงาน
ี่
การศกษาค้นคว้าด้วยตนเองและการพัฒนาโดยการอบรม แนวคดทสรปข้างต้น ผู้วิจัยได้สังเคราะห ์
ิ
ึ
ี่
ุ
ี
จากแนวคดของนักการศกษาดังต่อไปน้ Boyatzis (1982) Spencer (1993) Eraut (1996) McClelland
ึ
ิ
(1999) Hellriegel และคณะ (2001) Schoonover Associates (2003) Shermon (2005) ดนัย เทยนพุฒ
ี
ิ
์
ู
ี
ั
ุ
์
(2546) ณรงค์วิทย์ แสงทอง (2547) อาภรณ ภ่วิทยพันธ (2548) สกัญญา รศมธรรมโชต (2548)
รตนาภรณ ศรพยัคฆ์ (2548) ณรงค์วิทย์ แสนทอง (2548) อรญ โสตถพันธและคณะ (2548)
ุ
ั
์
ิ
ี
์
ั
ส านักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรอน (2548) เกรกเกียรต ศรเสรมโภค (2549) ปยะชัย
ิ
ิ
ิ
ี
ิ
ื
จันทรวงศ์ไพศาล (2549) ส านักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรอน (2550) วิทยา จันทรศร ิ
์
ื
ิ
ิ
(2551) และพศน แตงจวง (2554)
ิ
ิ
1.2 แนวคดและทฤษฎเกี่ยวกับการบรหารความขัดแย้ง
ี
ุ
ิ
แนวคดเกี่ยวกับความขัดแย้ง ทั้งด้านมนษยสัมพันธและแนวคดสมัยใหม่ หรอ
์
ิ
ื
์
แนวคดเชงปฏสัมพันธ มองความขัดแย้งในด้านบวก เนองมาจากการศกษาและความก้าวหน้าทาง
ิ
ิ
ึ
ิ
ื่
เทคโนโลยีใหม่ๆ ทพัฒนาข้น ท าให้มองความขัดแย้งในเชงสรางสรรค์ ซงข้นอยู่กับระดับของความ
่
ิ
้
ึ
ึ
ึ
ี่
ิ
ิ
็
ี่
ขัดแย้งและการจัดการความขัดแย้งในองค์กร การบรหารความขัดแย้งจงเปนส่งทสามารถจะท าได้
ึ
่
ิ
ิ
ึ
ี
บนพื้นฐานของการท าความเข้าใจกัน ด้วยความจรงใจและเปดเผย ซงมผลกระทบต่อองค์กรทั้งใน